สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยในวันนี้ว่า ความต้องการทองคำทั่วโลกในไตรมาส 2/2564 อยู่ที่ระดับ 955.1 ตัน ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบเป็นรายปี แต่เพิ่มขึ้นราว 17% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนและธนาคารกลางทั่วโลกเพิ่มการเข้าซื้อทองคำ
อย่างไรก็ดี การนำทองคำมาใช้ในการทำอัญมณีชะลอตัวลงเนื่องจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาด โดยการใช้ทองคำเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ปรับตัวลงเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปีอื่นๆ นับตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
ความต้องการทองคำของผู้ผลิตอัญมณีและธนาคารกลางต่างๆ ทรุดตัวลงในช่วงที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดในปี 2563 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของรัฐบาล อีกทั้งทำให้ร้านอัญมณีต้องปิดตัวลง และส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชน
ทั้งนี้ WGC ระบุว่า ความต้องการทองคำในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 อยู่ที่ 1,833.1 ตัน ลดลงจากระดับ 2,044 ตันในปี 2563 และลดลงจากระดับ 2,195.5 ตันในปี 2562
รายงานของ WGC ยังระบุด้วยว่า กองทุน ETF ซึ่งเป็นสถาบันที่เก็บรักษาทองคำสำหรับนักลงทุนรายใหญ่นั้น ได้เพิ่มการถือครองทองคำในไตรมาส 2/2564 หลังจากที่ปรับลดการถือครองทองคำในช่วงสองไตรมาสก่อนหน้านั้น
ขณะที่ธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกได้เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2564 มากกว่าไตรมาสใดๆ ในช่วงเวลา 2 ปี
ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองคำจากบรรดาผู้ผลิตอัญมณีและนักลงทุนได้ปรับตัวลงต่ำกว่าในช่วงไตรมาส 1/2564 แต่ก็ยังคงสูงกว่าในไตรมาส 2/2563
ทั้งนี้ WGC คาดการณ์ว่า ความต้องการอัญมณีทั่วโลกตลอดทั้งปี 2564 จะยังอยู่ต่ำกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอยู่ในช่วง 1,600-1,800 ตัน
นอกจากนี้ WGC คาดการณ์ว่า ความต้องการทองคำแท่งและเหรียญทองของทั้งนักลงทุนและ ETF จะอยู่ที่ 1,250-1,400 ตันในปี 2564 ลดลงจากระดับของปี 2563 แต่ก็ยังอยู่ที่ราวระดับเฉลี่ยของช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 64)
Tags: WGC, ทองคำ, ราคาทอง, สภาทองคำโลก