นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์พอใจที่สินค้าเกษตรในเดือนมิ.ย.มีส่วนช่วยเศรษฐกิจสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ 71,473.5 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวสูงถึง 59.8%
สำหรับตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายน 2564 มีมูลค่า 23,699.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือ 738,135.34 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 43.82% ถือเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยมีสินค้าสำคัญที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด5อันดับแรกได้แก่ 1.ผลไม้ขยายตัว 185.10% 2.อัญมณีและเครื่อง ด้วยมูลค่า ประดับ ขยายตัว 90.48% 3.รถยนต์และอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ ขยายตัว 78.5% 4.เครื่องจักรกล ขยายตัว 73.13% และ5.เคมีภัณฑ์ขยายตัว 59.82% ประการสำคัญคือ ตลาดหลักและตลาดรองมีอัตราการขยายตัวทุกตลาดโดยตลาดหลักขยายตัว 41.2% ประกอบด้วยจีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป CLMV อาเซียน เป็นต้น ส่วนตลาดรองขยายตัว 49.5% ได้แก่ เอเชียใต้ อินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ ตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาติน ออสเตรเลีย เป็นต้น
ส่วนการส่งออกข้าวที่มีตัวเลขติดลบทั้งปริมาณและมูลค่านั้น รมว.เกษตรฯ ถือเป็นวาระเร่งด่วนในการแก้ปัญหาและได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งปฏิรูปข้าวแบบครบวงจรเพื่อสร้างศักยภาพใหม่หวังที่จะทวงแชมป์กลับคืนมาโดยใช้ “5 ยุทธศาสตร์ปฏิรูปเกษตร4.0” เป็นหัวใจของการพัฒนาโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆมาสร้างการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่การผลิต การแปรรูปและการตลาดภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตโดยบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกระทรวงพาณิชย์ สมาคมชาวนาและทุกภาคีภาคส่วน
นอกจากนี้ยังสั่งการให้คณะกรรมการบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ปรับแผนกลยุทธ์รับมือกับผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะลำไยภาคเหนือและผลไม้ภาคใต้ช่วงฤดูพีคสูงสุดในเดือนกคมและสิงหาคมซึ่งเริ่มเห็นผลกระทบจากมาตรการโควิด-19 รุนแรงมากขึ้นเช่นมังคุดในภาคใต้แม้ความต้องการของตลาดยังสูงอยู่แต่กลไกการค้าและการขนส่งเพื่อส่งออกติดขัดอย่างมากทำให้การนำมังคุดจากสวนไปสู่ตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดเกิดปัญหาตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมาและให้ฟรุ้ทบอร์ดออก7มาตรการเพิ่มเติมเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ก.ค. 64)
Tags: ข้าว, ส่งออก, ส่งออกข้าว, สินค้าเกษตร, อลงกรณ์ พลบุตร, เฉลิมชัย ศรีอ่อน