นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 64 เห็นชอบให้ยกเลิกโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ แปลง A พื้นที่ 32 ไร่ มูลค่าลงทุน 11,721 ล้านบาท หลังจากได้เปิดประมูลไปแล้ว 2 ครั้ง ตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 แต่ไม่มีเอกชนยื่นประมูล
ทั้งนี้ จะให้บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ รฟท. ไปทบทวนผลการศึกษาขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) ในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีกลางบางซื่อในภาพรวมใหม่ ทั้ง 9 แปลง เนื้อที่ 2,325 ไร่ ซึ่งอาจต้องมีการปรับแนวคิดและรูปแบบการพัฒนาให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์
ส่วนเรื่องอัตราค่าโดยสารโครงการรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงรังสิต-บางซื่อ-ตลิ่งชันนั้น ได้มีการถอนวาระการพิจารณาอนุมัติอัตราค่าโดยสารออกไปก่อน เนื่องจาก รฟท.ต้องการพิจารณาวิเคราะห์ข้อมูลตัวเลขที่เกี่ยวข้องให้รอบด้าน รวมถึงหารือกับกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เพื่อกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารให้เหมาะสมที่สุด โดยยังคงกรอบอัตราเริ่มต้นที่ 12 บาท และสูงสุดที่ 42 บาทไว้เช่นเดิม
“แม้จะมีกรอบราคาเริ่มต้นและสูงสุดแล้ว แต่ยังต้องกำหนดรายละเอียดโครงสร้างค่าโดยสารที่จะคิดตามจำนวนสถานีที่ใช้เดินทางอีก ซึ่งตอนนี้ยังมีเวลาพิจารณา เนื่องจากมีกำหนดเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์และเก็บค่าโดยสาร ช่วงเดือนพ.ย. 64” ผู้ว่าฯ รฟท.กล่าว
สำหรับการเปิดให้บริการรถไฟสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่ออย่างไม่เป็นทางการ ยังเป็นไปตามกำหนดเดิมในวันที่ 2 ส.ค. 64 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานพิธีเปิดผ่านระบบออนไลน์ภายใต้มาตรการด้านสาธารณสุข
ด้านแหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ต้องการให้ รฟท.เก็บข้อมูลต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงก่อน โดยจะเก็บข้อมูลในช่วงเดือนก.ย. ที่มีการเปิดเดินรถอย่างไม่เป็นทางการไปแล้ว โดยมอบหมายให้นายสรพงษ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หารือร่วมกับ รฟท.และ ขร. เพื่อบริหารจัดการต้นทุน ค่าใช้จ่าย รถไฟสายสีแดง ไม่ให้ขาดทุน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 ก.ค. 64)
Tags: นิรุฒ มณีพันธ์, รฟท., สถานีกลางบางซื่อ