นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและครอบครัวประมาณ 200 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ CIA และครอบครัวราว 100 คน ล้มป่วยด้วยกุล่มอาการ “ฮาวานา ซินโดรม” ซึ่งทำให้ผู้ป่วยมีอาการไมเกรน วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ และสูญเสียความทรงจำ โดยกลุ่มอาการดังกล่าวได้ชื่อเช่นนี้ เนื่องจากมีการตรวจพบครั้งแรกในหมู่เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐผู้ประจำอยู่ที่กรุงฮาวานาของคิวบาเมื่อปี 2559
นายเบิร์นส์ ซึ่งเป็นนักการทูตรายแรกที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการ CIA กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว National Public Radio (NPR) ว่า เขาได้ดำเนินการในด้านต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ CIA หาสาเหตุของกลุ่มอาการฮาวานา ซินโดรม และตรวจสอบว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
นอกจากนี้ นายเบิร์นส์ยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงผู้เคยนำทีมไล่ล่านายโอซามา บิน ลาเดน ให้นำคณะทำงานสืบสวนกลุ่มอาการดังกล่าว รวมถึงเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนครั้งนี้เป็น 3 เท่า
นายเบิร์นส์ระบุว่า จากตรวจสอบโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ (NAS) เมื่อเดือนธ.ค. 2563 พบว่า ทฤษฎีหนึ่งที่เป็นไปได้คือมีการใช้รังสีพลังงานแบบเล็งเป้าหมายเพื่อทำให้เกิดกลุ่มอาการฮาวานา ซินโดรม โดยเป็นไปได้มากที่จะมีผู้ที่ตั้งใจทำให้เกิดกลุ่มอาการดังกล่าวขึ้น และอาจเป็นการโจมตีโดยรัสเซีย อย่างไรก็ตาม นายเบิร์นส์เสริมว่า เขายังไม่สามารถรายงานข้อสรุปชัดเจนได้ เนื่องจากยังต้องรอผลการสืบสวน
ทางด้านรัฐบาลรัสเซียปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 64)
Tags: CIA, กรุงฮาวานา, คิวบา, วิลเลียม เบิร์นส์, สหรัฐ, ฮาวานา ซินโดรม