หุ้น STECH เปิดเทรดวันแรกที่ 3.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.76 บาท (+27.34%) จากราคาขาย IPO ที่ 2.78 บาท/หุ้น
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าเหมาะสมเบื้องต้นของบมจ.สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) ในปี 2564 อยู่ 2.93-3.12 บาท หรือ P/E ปี 2564 ที่ 11.04 เท่า (เปรียบเทียบกับ SCP ซึ่งมีลักษณะการประกอบธุรกิจและขนาดใกล้เคียง แต่ให้ Premium เนื่องจากได้เปรียบเรื่องของที่ตั้งโรงงานมากกว่า) ในปีนี้การเติบโตหนุนจากงานก่อสร้างจากภาครัฐเป็นหลัก และมองว่าบริษัทมีแนวโน้มที่ดี
จากแผนการลงทุนในการขยายโรงงาน และกำลังผลิตที่สอดคล้องกับโครงการขนาดใหญ่อย่าง โครงการรถไฟรางคู่ “เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ” ที่มีมูลค่าของเสาเข็ม และคานสะพานประมาณ 2.44 หมื่นล้านบาท ซึ่งบริษัทได้เปรียบในเรื่องที่ตั้งของโรงงานทำให้มีความสามารถในการแข่งขันด้านราคา, โครงการรถไฟรางคู่ สายบ้านไผ่-นครพนม ที่มีมูลค่าของเสาเข็ม และคานสะพานประมาณ 1.09 หมื่นล้านบาท (มาร์จิ้นอาจถูกกดดันเนื่องจากการแข่งขันที่สูง) และโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของบริษัทได้ในระยะยาว
นอกจากโครงการภาครัฐแล้ว รายได้ในปี 2565 ยังถูกหนุนโดยโครงการของเอกชนที่มีการเลื่อนเปิดโครงการ หรือการเปิดตัวโครงการ หลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย สำหรับปัจจัยที่ต้องระวังของ STECH คือ การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง และราคาของวัตถุดิบในการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งอาจกดดันให้อัตรากำไรของบริษัทต่ำกว่าคาด
STECH ดำเนินธุรกิจโดยเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงต่าง ๆ ในลักษณะ Made to order ทั้งให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการตอกเสาเข็ม และรับเหมาก่อสร้างเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องอย่าง งานติดตั้งระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยมีโรงงานผลิตอยู่ในทุกภูมิภาค ยกเว้นในภาคใต้ และมีกลุ่มลูกค้าหลัก 3 กลุ่มคือ กลุ่มภาครัฐซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ช่วง Q1/64 ที่ 9.93% เช่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างเช่น STEC CK ITD CNT เป็นต้น โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ช่วง Q1/64 ที่ 70.43% และกลุ่มเจ้าของโครงการ เช่น ORI โดยคิดเป็นสัดส่วนรายได้ช่วง Q1/64 ที่ 13.70%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ก.ค. 64)
Tags: STECH, คอนกรีต, คอนกรีตอัดแรง, บล.ทิสโก้, สยามเทคนิคคอนกรีต, หุ้นไทย