หุ้นไทยปิดพุ่ง 11.48 จุด รับแรงซื้อกลุ่มแบงก์เป็นหลัก-จับตาตัวเลขส่งออกไทยพรุ่งนี้

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,552.36 จุด เพิ่มขึ้น 11.48 จุด (+0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 69,687.13 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์หลังลงไปทดสอบ 1,530 โดยได้รับแรงซื้อกลุ่มแบงก์เป็นหลักหลังงบฯไตรมาส 2/64 ดีกว่าคาด แต่มองยังมี downside ต้องรอติดตามมาตรการภาครัฐเยียวยากลุ่มค้าปลีกที่รับผลกระทบหนักจากการล็อกดาวน์ และยอดผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นในหลายจังหวัดอาจขยายวงพื้นที่สีแดงเข้ม แนะลงทุนหุ้นปลอดภัยกลุ่มโรงไฟฟ้า-Reopening ต่างประเทศอย่าง MINT เป็นต้น ด้านตลาดภูมิภาคบวกส่วนใหญ่เช่นเดียวกับตลาดยุโรป คาดพรุ่งนี้ตลาดฯคงไม่ลงแรงแล้ว ให้กรอบการแกว่ง 1,545-1,555 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,552.36 จุด เพิ่มขึ้น 11.48 จุด (+0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 69,687.13 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,554.65 จุด และระดับต่ำสุด 1,546.26 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 842 หลักทรัพย์ ลดลง 728 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 550 หลักทรัพย์

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์หลังจากลงไปทดสอบแนว 1,530 จุด โดยได้รับแรงซื้อกลุ่มแบงก์เป็นหลัก หลังจากผลประกอบการไตรมาส 2/64 ดีกว่าที่ประเมินไว้ 5-10% แต่ยังต้องรอติดตามมาตรการภาครัฐฯ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ไม่ต่างจากปี 63 ดังนั้น จึงมองว่ากลุ่มธนาคารยังมี Downside อีกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลายจังหวัดเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ อาจทำให้ภาครัฐขยายวงพื้นที่สีแดงเข้มเพิ่มเป็น 15-20 จังหวัดได้

อย่างไรก็ดี แนะนำหุ้นที่ค่อนข้างปลอดดภัยในการลงทุน คือ กลุ่มโรงไฟฟ้า อย่าง BCPG, YGG และกลุ่มรับประโยชน์จาก Reopening ของต่างประเทศ เช่น MINT พร้อมให้ติดตามตัวเลขการส่งออกของไทยในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะขยายตัวสูงถึง 35-38% เห็นจากวันนี้มีการเล่นหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กันอย่างคึกคัก ซึ่งจะต้องจับตาแนวโน้มว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 1-2% เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่ฟื้นตัวขึ้นมาเกือบทั้งหมดราว 0.8% ตามตลาดสหรัฐฯที่ปรับตัวขึ้นมา ซึ่งเป็นลักษณะค่อย ๆ ฟื้น

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ค.) นายสรพล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะไม่ปรับตัวลงแรง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,545-1,555 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • SCB มูลค่าการซื้อขาย 4,735.95 ล้านบาท ปิดที่ 95.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,571.67 ล้านบาท ปิดที่ 107.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
  • KCE มูลค่าการซื้อขาย 3,878.61 ล้านบาท ปิดที่ 81.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
  • HANA มูลค่าการซื้อขาย 2,084.26 ล้านบาท ปิดที่ 78.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
  • GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,975.43 ล้านบาท ปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ก.ค. 64)

Tags: , , , , , ,
Back to Top