รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 พุ่งขึ้น 23.2% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 11 ปี สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ยอดส่งออกในช่วงเดือนม.ค.-มิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 39.86 ล้านล้านเยน (3.63 แสนล้านดอลลาร์) สูงกว่าระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดซึ่งอยู่ที่ 38.25 ล้านล้านเยนในครึ่งแรกของปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่การส่งออกของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
ส่วนยอดนำเข้าในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัว 12.2% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 38.87 ล้านล้านเยน และเป็นการเพิ่มมากที่สุดนับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2560 ที่มีการขยายตัว 15.9% สะท้อนให้เห็นว่าราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นและการบริโภคในประเทศฟื้นตัว
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้า 9.8499 แสนล้านเยนในช่วง 6 เดือนแรกของปี ซึ่งเป็นการเกินดุลรอบครึ่งปี 2 ครั้งติดต่อกัน
สำหรับเดือนมิ.ย.เพียงเดือนเดียวนั้น ยอดส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 48.6% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 7.22 ล้านล้านเยน และยอดนำเข้าปรับตัวขึ้น 32.7% แตะที่ 6.84 ล้านล้านเยน ส่งผลให้ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 3.8318 แสนล้านเยน หลังจากที่ขาดดุล 1.8936 แสนล้านเยนในเดือนพ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 64)
Tags: ญี่ปุ่น, ส่งออก, เศรษฐกิจญี่ปุ่น