นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยยังไม่คลี่คลาย ทำให้ต้องมีการยกระดับมาตรการควบคุมการระบาดเข้มงวดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงสุด 10 จังหวัดตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค
จากสถานการณ์ในตอนนี้ ธนาคารกสิกรไทยขอเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับร้านค้ารายย่อย จึงออกโครงการพิเศษ “เงินกู้สู้ไปด้วยกัน” อนุมัติง่าย อัตราดอกเบี้ย 3% พักชำระเงินต้น 3 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 300,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน ฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท ระยะเวลากู้สูงสุด 5 ปี ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวก็กู้ได้ เพียงเดินบัญชีกับธนาคาร สมัครทางออนไลน์ง่ายและสะดวกที่เว็บไซต์ของธนาคารฯ เพื่อช่วยให้ร้านอาหารและร้านค้ารายย่อยมีเงินทุนในการทำธุรกิจ มีความหวังและกำลังใจในการดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ธนาคารยังสนับสนุนให้ร้านค้าเพิ่มช่องทางการขายได้บน K+ market ในแอป K PLUS ของธนาคาร รวมถึงการทำกิจกรรมช่วยโปรโมตร้านผ่านสื่อต่างๆของธนาคาร และร่วมมือกับเพจออนไลน์ชื่อดัง เพื่อช่วยเพิ่มยอดขายสร้างรายได้ให้แก่ร้านค้า ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ธนาคารยังขานรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในการให้ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ลูกค้าเอสเอ็มอีและลูกค้ารายย่อยที่ต้องปิดกิจการตามมาตรการของทางการ ด้วยการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ระยะเวลา 2 เดือน โดยเริ่มการพักชำระตั้งแต่งวดการชำระหนี้เดือน ก.ค. 64 เป็นต้นไป เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าของธนาคาร
“ในวันนี้เรายังไม่รู้ว่าวิกฤตจะจบเมื่อไหร่ ขอให้ทุกคนมีกำลังใจ สู้ไปด้วยกัน อย่าหมดหวัง ธนาคารกสิกรไทยพร้อมจะอยู่เคียงข้างสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าจนกว่าวิกฤตครั้งนี้จะคลี่คลาย เพื่อประคับประคองให้ลูกค้าผ่านวิกฤตไปได้”
นายพัชร กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารพร้อมช่วยเหลือลูกค้าให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน ทั้งการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทางการเงิน รวมถึงการเพิ่มสภาพคล่องจากการออกโครงการพิเศษเพื่อช่วยร้านอาหารและร้านค้ารายย่อยในครั้งนี้ ธนาคารฯ คาดหวังว่าจะช่วยร้านค้ารายย่อยให้เข้าถึงเงินกู้ได้ 35,000 ราย โดยเตรียมวงเงินสินเชื่อไว้ 3.5 พันล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ก.ค. 64)
Tags: KBANK, SMEs, ธนาคารกสิกรไทย, ผู้ประกอบการ, พัชร สมะลาภา, ร้านอาหาร, สินเชื่อ, เอสเอ็มอี