กรมศุลกากรของฮ่องกงเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงเข้าจับกุมตัวบุคคลที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องในกระบวนการฟอกเงินมูลค่า 1.2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (155 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ปฏิบัติการสอบสวนดังกล่าว ซึ่งใช้ชื่อว่า “Coin Breaker” เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ค. โดยมีการตรวจสอบเงินราว 880 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินคริปโตด้วยกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ราว 40 กระเป๋า และบุกตรวจค้นสถานที่ 5 แห่ง
ผลการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องสงสัย 4 รายที่เป็นชายอายุระหว่าง 24-33 ปี ได้เปิดบัญชีธนาคารในฮ่องกงหลายบัญชี และทำธุรกรรมผ่านทางแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีการโอนเงินไปยังต่างประเทศผ่านบัญชีธนาคารและสกุลเงินคริปโตตั้งแต่เดือนก.พ. 2563 จนถึงเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมดได้รับการประกันตัวแล้ว
นายมาร์ค อู่ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนองค์กรอาชญากรรมแห่งกรมศุลกากรของฮ่องกงออกแถลงข่าวยืนยันว่า สกุลเงินคริปโตที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้คือสกุลเงิน Stablecoin ที่มีชื่อว่า Tether อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรไม่ได้เปิดเผยชื่อของแพลตฟอร์มซื้อขายเงินคริปโตหรือธนาคารที่เกี่ยวข้อง
แถลงการณ์ระบุว่า การสอบสวนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กรมศุลกากรของฮ่องกงตรวจพบกรณีการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต
ที่ผ่านมา ฮ่องกงตรวจสอบการซื้อขายสกุลเงินคริปโตที่เข้มงวดขึ้น โดยกำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานด้านการกำกับดูแลในท้องถิ่น พร้อมทั้งปฏิบัติตามกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินและต่อต้านการให้เงินสนับสนุนองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้ รัฐบาลฮ่องกงยังประกาศข้อบังคับเมื่อปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องให้บริการกับนักลงทุนอาชีพเท่านั้น และไม่สามารถให้บริการกับนักลงทุนรายย่อยได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ค. 64)
Tags: bitcoin, Coin Breaker, Cryptocurrency, Stablecoins, Tether, กรมศุลกากรของฮ่องกง, คริปโตเคอเรนซี, คริปโทเคอร์เรนซี, มาร์ค อู่, ฮ่องกง, เงินดิจิทัล