น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปี ซึ่งเป็นการกำหนดให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพรายปีแก่ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการสปาและกิจการนวดเพื่อสุขภาพ หรือเพื่อเสริมความงามออกไปอีกเป็นระยะเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.64 จนถึงวันที่ 17 มี.ค.65 และกำหนดให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมการประกอบกิจการแก่การดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงแก่ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงเป็นระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลบังคับใช้
สำหรับค่าธรรมเนียมกิจการสปาอยู่ที่ปีละ 1,000 บาท กิจการนวดเพื่อสุขภาพหรือเสริมความงามปีละ 500 บาท และกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิงโดยมีการพักค้างคืนปีละ 1,000 บาท โดยขณะนี้มีสถานประกอบการประเภทกิจการสปาจำนวน 905 แห่ง กิจการนวดเพื่อสุขภาพและเพื่อเสริมความงาม จำวน 10,934 แห่ง และกิจการการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 138 แห่ง
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีนี้ประมาณการว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในครั้งนี้รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,640,000 บาท แต่จะเป็นการช่วยเหลือเยียวยาและลดภาระและบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการกิจการสถานประกอบการเพื่อสุขภาพที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจต่อไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ค. 64)
Tags: ธุรกิจเสริมความงาม, นวดเพื่อสุขภาพ, ยกเว้นค่าธรรมเนียม, สถานดูแลผู้สูงอายุ, สปา, เยียวยาโควิด, ไตรศุลี ไตรสรณกุล