สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (Eurostat) เปิดเผยว่า เที่ยวบินพาณิชย์ในสหภาพยุโรป (EU) มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อน หลังจากภาคธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวเผชิญผลกระทบหนักจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้มีการบังคับใช้คำสั่งห้ามเดินทาง
รายงานระบุว่า ช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 เมื่อต้นปี 2564 จำนวนเที่ยวบินพาณิชย์ลดลงอย่างมากราว 70% เมื่อเทียบกับระดับก่อนเกิดโรคระบาด แต่จำนวนเที่ยวบินได้กลับมาดีดตัวขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยต่ำกว่าช่วง 2 ปีก่อนเพียง 54% เพราะการรณรงค์ฉีดวัคซีนและการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ใน EU
นายเบนจามิน สมิธ ประธานกรรมการบริหารสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม กล่าวกับสถานีวิทยุของฝรั่งเศสเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า การเดินทางในพื้นที่เมดิเตอร์เรเนียนและยุโรปง่ายดายขึ้นอย่างมากและมีความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้น โดยเที่ยวบินของสายการบินที่เดินทางจากฝรั่งเศสสู่จุดหมายท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างกรีซ อิตาลี สเปน และโปรตุเกส ถูกจับจองจนเต็มแล้ว
อย่างไรก็ดี นายสมิธกล่าวว่าแม้สายการบินของยุโรปกำลังฟื้นตัวจากดีมานด์การเดินทางภายใน EU แต่เที่ยวบินระยะไกลและการเดินทางนอกสหภาพยุโรปยังซบเซา โดยเที่ยวบินที่เดินทางสู่เอเชียและลาตินอเมริกายังคงปิดให้บริการ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า EU เปิดตัวใบรับรองโควิดแบบดิจิทัลเมื่อวันที่ 1 ก.ค. โดยมีเป้าหมายอำนวยความสะดวกแก่การเดินทางภายในพื้นที่เชงเกนและเริ่มเปิดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยขณะนี้ EU กำลังเจรจากับสหรัฐและประเทศอื่นๆ เพื่อใช้ใบรับรองวัคซีนดังกล่าวร่วมกัน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ค. 64)
Tags: EU, XINHUA, การท่องเที่ยว, ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป, สายการบิน, เที่ยวบินพาณิชย์, เบนจามิน สมิธ, แอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม