PTTGC ดีดกลับ 5.48% โบรกฯมองบวกซื้อ Allnex ต่อยอดธุรกิจ High Value

หุ้น PTTGC ราคาวิ่งขึ้น 5.48% มาอยู่ที่ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,595.26 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.00 น. โดยเปิดตลาดที่ 56.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 58.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 56.25 บาท

วานนี้ (12 ก.ค.) หุ้น PTTGC ปิดร่วง 6.41% ปิดที่ 54.75 บาท ลดลง 3.75 บาท

บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ซื้อ”หุ้นบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา 6% ได้สะท้อนความตื่นกลัวของตลาดต่อความเสี่ยงจากการตั้งสำรองสินทรัพย์ด้อยค่าที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลงทุนต่างประเทศในอนาคต ราคาหุ้นล่าสุดซื้อขายที่ valuation ที่น่าสนใจที่ 2564 PBV 0.83x (ประมาณ -1.0SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง)

การประกาศเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน Allnex Holding GmbH (ANHG) ด้วยมูลค่ารวม 3.6 พันล้านยูโร โดยการประชุมคณะกรรมการ (BOD) ของบริษัท PTTGC International (Netherlands) B.V. (GCIBV) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ PTTGC มีมติอนุมัติการทำธุรกรรม 2 รายการ 1) เป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของ ANHG ด้วยมูลค่ารวม 3.6 พันล้านยูโร และทำสัญญาเงินกู้ให้ ANHG มูลค่า 426 ล้านยู และ 2) เป็นการเข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ 6% ใน Allnex Holding Germany II GmbH (ANHGII) ซึ่งเป็นส่วนนึงของ ANHG ที่มูลค่า 1,744 ยูโร โดยธุรกรรมทั้ง 2 รายการทำภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นฉบับเดียวกันคิดเป็นมูลค่ารวม 4.0 พันล้านยูโร (เทียบเท่า 148.4 พันล้านบาท) โดย PTTGC คาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายใน 31 ธ.ค. 64 พร้อมกันนี้ PTTGC ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจาก PTT และ/หรือ บริษัท ปตท. ศูนย์บริหารเงิน จำกัด (PTT TCC) เป็นจำนวนวงเงินไม่เกิน 73.9 พันล้านบาทเพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการ High Value Business (HVB) โดย PTTGC ได้ลงนามสัญญาเงินกู้เมื่อวันที่ 7 ก.ค.64 มีระยะเวลา 2 ปี ที่อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2.5% ต่อปี

ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อการเข้าซื้อ ANHG ในครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับแผนธุรกิจของ PTTGC ที่ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจ Performance chemicals and green chemicals (PC&GC) จาก 10% ในปี 2563 เป็น 25% ภายในปี 2573 ทั้งนี้ PTTGC เปิดเผยว่ารายได้ EBITDA และกำไรสุทธิ ของ ANHG ในรอบ 12 เดือนล่าสุด (สิ้นสุด 31 มี.ค.64) อยู่ที่ 1.9 พันล้านยูโร 328 ล้านยูโร และ 88 ล้านยูโร ตามลำดับ คิดเป็น EBITDA margin ที่ 17.3% เทียบกับของ PTTGC ที่ 11.6% ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน

ด้าน Valuation ไม่ถูกแต่ยอมรับได้ ถ้าคิดบนตัวเลข 12 เดือนล่าสุด ดีลนี้สะท้อน valuation ที่ 2564 EV/EBITDA 12.2x ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงของ valuation ที่ 11.0x-12.0x สำหรับดีลที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา

แหล่งเงินทุนของ PTTGC ในดีลนี้จะมาจาก 1) เงินสดในมือ (รวมการลงทุนระยะสั้น) ของบริษัท (อยู่ที่ 100.5 พันล้านบาทในไตรมาส 1/64 2) วงเงินกู้จาก PTT (ไม่เกิน 73.9 พันล้านบาท) 3) เงินที่ได้รับจากการขายหุ้น GPSC (ประมาณ 22 พันล้านบาท) และ 4) เงินกู้อื่นๆ วงเงินนอกจากนี้ จากการที่บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนผู้ถือหุ้น (net IBD/E) อยู่ที่เพียง 0.33x ในไตรมาส 1/64 จึงเชื่อว่าบริษัทไม่มีความจำเป็นในการเพิ่มทุนสำหรับดีลนี้

ถ้าดีลนี้สำเร็จได้ตามแผน (ภายในสิ้นปี 2564) ประเมินในเบื้องต้นว่าดีลนี้จะสร้าง upside ต่อประมาณการกำไรปี 2565 ประมาณ 8% บนสมมติฐาน อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 5% และใช้วงเงินกู้จาก PTT ทั้งหมด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ก.ค. 64)

Tags: , , , , ,
Back to Top