นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตรียมประกาศเตือนให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง ขณะที่หลายฝ่ายจับตาการแถลงยกเลิกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยคาดว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษจะยืนยันการตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. เป็นต้นไป ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศพุ่งสูงขึ้นในรอบหลายเดือน
“การระบาดทั่วโลกยังไม่จบ” และ “ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเรายกเลิกมาตรการควบคุมโรค การสื่อสารของเราจะต้องชัดเจน การออกคำเตือนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่อย่างนั้นก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้” นายจอห์นสันระบุในแถลงการณ์วานนี้
ก่อนหน้านี้ นายจอห์นสันได้เสนอให้ยกเลิกมาตรการควบคุมโรคบางส่วน ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคม รวมถึงคำสั่งให้ทำงานจากที่บ้าน
แม้ว่าอังกฤษจะดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รวดเร็วมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีประชากรวัยผู้ใหญ่กว่า 87% ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส ขณะที่ 66% ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว อย่างไรก็ดี ยอดผู้ติดเชื้อในอังกฤษกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งโดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ฤดูหนาวเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้านรัฐบาลอังกฤษให้เหตุผลว่า แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้น แต่ยอดผู้เสียชีวิตและผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลจากโควิด-19 ยังคงลดลงกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานบ่งชี้ว่า วัคซีนสามารถช่วยชีวิตคนและช่วยให้การกลับมาเปิดเศรษฐกิจมีความปลอดภัยมากขึ้น
ทั้งนี้ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษระบุว่า การอนุมัติยกเลิกมาตรการควบคุมโรคขึ้นอยู่กับปัจจัยสี่ข้อ ได้แก่ จำนวนผู้ฉีดวัคซีนมีมากพอ, จำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลและเสียชีวิตที่ลดลงหลังฉีดวัคซีน, โรงพยาบาลไม่อยู่ในสภาพที่ต้องแบกรับภาระหนักจากการดูแลผู้ป่วย และการที่เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ไม่เพิ่มความเสี่ยงที่รุนแรง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, ฉีดวัคซีน, บอริส จอห์นสัน, มาตรการควบคุมโรค, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, อังกฤษ, โควิด-19