รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 4.5 ล้านโดสซึ่งมีกำหนดเดินทางมาถึงออสเตรเลียในเดือนก.ย.นี้ อาจมาถึงเร็วกว่ากำหนด และสามารถเร่งฉีดให้ประชาชนได้ในเดือนส.ค.
วัคซีนไฟเซอร์จำนวน 1 ล้านโดสจะส่งตรงมายังออสเตรเลียทุกสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพิ่มขึ้นจากระดับ 350,000 โดสต่อสัปดาห์ในปัจจุบัน
นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ให้สัมภาษณ์กับออสเตรเลียน บรอดแคสติง คอร์ปอเรชัน ในวันนี้ว่า “เราได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนจำนวนมากในช่วงเดือนมิถุนายน และประชาชนทุกคนจะได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดยภายในสิ้นปีนี้”
ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ชาวออสเตรเลียสามารถฉีดวัคซีนได้มากขึ้นในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะช่วยต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 ในซิดนีย์
“นอกจากนี้เรายังได้เพิ่มผู้ปฏิบัติงานทั่วไปอีก 1,300 คนในเดือนนี้ เพื่อระดมกำลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่กำลังจะมาถึง” นายมอร์ริสันกล่าว
ข้อมูล ณ วันพฤหัสบดี ระบุว่า มีประชาชนชาวออสเตรเลียที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไปราว 10% ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว โดยเป็นวัคซีนจากไฟเซอร์หรือวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้ในประเทศโดยสำนักงานผลิตภัณฑ์รักษาโรคแห่งออสเตรเลีย (TGA)
คณะที่ปรึกษาทางเทคนิคด้านการสร้างภูมิคุ้มกันแห่งออสเตรเลีย (ATAGI) แนะนำว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าควรใช้ในผู้ป่วยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่าการใช้งานกับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปตามที่เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคติดเชื้อ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อโครงการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, Pfizer, ซิดนีย์, ล็อกดาวน์, วัคซีนต้านโควิด-19, สก็อตต์ มอร์ริสัน, ออสเตรเลีย, โควิด-19, ไฟเซอร์