ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยว่า ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ในเดือนพ.ค. 2564 สร้างความเสียหายมูลค่า 570 ล้านดอลลาร์สหรัฐในดินแดนปาเลสไตน์
การประเมินความเสียหายและความต้องการเร่งด่วนเผยให้เห็นว่า มีความเสียหายทางกายภาพอยู่ที่ 380 ล้านดอลลาร์ และความเสียหายทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 190 ล้านดอลลาร์
รายงานซึ่งจัดทำโดยสหภาพยุโรป (EU) และองค์การสหประชาชาติ (UN) เสริมว่า การฟื้นฟูความเสียหายอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 485 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 เดือนแรก
รายงานชี้ให้เห็นว่า ภาคสังคมเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และภาคที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวก็มีความเสียหายมากถึง 93% จากสัดส่วนความเสียหายในภาคสังคมทั้งหมด
คันธาน ชานการ์ ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำเวสต์แบงก์และกาซ่า ระบุในแถลงการณ์ว่า “ด้วยการประเมินนี้ เราหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริจาคเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ในกาซ่า”
รายงานระบุว่า ฉนวนกาซ่า ซึ่งเป็นที่อยู่ของชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคน อยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบางทางเศรษฐกิจเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
ชานการ์กล่าวว่า ก่อนที่อิสราเอลจะทำสงครามกับกาซ่า ธนาคารโลกคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกาซ่าจะเติบโต 2.5% ในปี 2564 แต่ปัจจุบันอาจจะหดตัว 0.3% แทน
รายงานของธนาคารโลกแสดงให้เห็นว่า อัตราว่างงานในฉนวนกาซ่าแตะระดับ 50% ขณะที่ประชาชน 60% ใช้ชีวิตอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. อียิปต์เป็นผู้จัดการทำข้อตกลงสงบศึกระหว่างอิสราเอลและกลุ่มติดอาวุธที่นำโดยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซ่า ยุติความตึงเครียดระยะเวลา 11 วันที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 250 คนและชาวอิสราเอล 13 คนเสียชีวิต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 64)
Tags: คันธาน ชานการ์, ธนาคารโลก, ปาเลสไตน์, สหภาพยุโรป, องค์การสหประชาชาติ, อิสราเอล, เวิลด์แบงก์