องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนให้ประเทศต่างๆ ใช้ความระมัดระวังขั้นสูงสุด หลังจากที่มีหลายประเทศยกเลิกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่สถานการณ์การระบาดยังคงทวีความรุนแรงในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ รวมถึงส่งผลให้ภูมิภาคอื่นๆ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์
ดร. มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ เจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายเทคนิคของ WHO แถลงว่า “เรากำลังติดตามวงจรการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก โดยขณะนี้หลายประเทศกำลังเผชิญกับยอดผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว”
การประกาศของ WHO เกิดขึ้นหลังจากที่หลายประเทศซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในระดับสูง เช่น สหรัฐและอังกฤษ ได้ทยอยยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ในขณะที่อีกหลายประเทศยังคงต่อสู้กับสถานการณ์โควิด-19 ที่รุนแรงนับตั้งแต่เริ่มระบาด
ส่วนภูมิภาคยุโรปพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 33% เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนที่อยู่ในระดับสูงนั้นทำให้ประชาชนคิดว่า การระบาดมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
“สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ทรงตัว เนื่องจากยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ส่วนการคาดคะเนว่าจะไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเพราะเรากำลังจะกลับมาเปิดเมืองได้นั้นเป็นการคาดการณ์ที่ผิด การแพร่กระจายเชื้อจะเพิ่มขึ้นเมื่อยกเลิกมาตรการควบคุมโรค เราจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมา” นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ WHO กล่าว
ขณะเดียวกัน นายแพทย์ไรอันยังหวังว่า สถานการณ์ในยุโรปจะไม่กลับไปสู่จุดที่มีผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล จนบุคลากรทางการแพทย์อยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้า เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ยังคงกลายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ และเตือนว่า ประเทศต่างๆ จำเป็นต้องระมัดระวังให้มากเข้าไว้ เพื่อให้ความพยายามในการรับมือกับโควิด-19 เกิดผลมากที่สุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, WHO, ฉีดวัคซีน, มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ, ยกเลิกล็อกดาวน์, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, องค์การอนามัยโลก, โควิด-19, ไมค์ ไรอัน