ดัชนีค่าระวางเรือมีความสำคัญต่อธุรกิจการเดินเรือ โดยดัชนีนี้ชี้ให้เห็นเกณฑ์มาตรฐานของราคาที่ใช้ในการขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์แห้งทางทะเล ซึ่งดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) เรียกโดยย่อว่า BDI ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างอุปทานของเรือขนส่งสินค้าเทกองขนาดยักษ์ประเภทต่าง ๆ และอุปสงค์ในการใช้เรือและเส้นทางการค้า นับเป็นดัชนีที่ช่วยให้มองเห็นค่าระวางเรือในเส้นทางการค้ารอบโลก
หากมองดัชนีค่าระวางเรือ BDI ในสิ้นปี 63 ปิดที่ 1,366 จุด และต้นปีนี้ ณ วันที่ 4 ม.ค.24 ดัชนี BDI ปิดที่ 1,374 จุด มาจนถึงวันที่ 29 มิ.ย.64 ปิดครึ่งปีแรกที่ 3,418 จุด เพียงแค่ครึ่งปีแรกดัชนี BDI ขึ้นมาแล้วกว่า 2,000 จุด สะท้อนผลบวกต่อราคาหุ้นในกลุ่มเดินเรืออย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ล่าสุด BDI ปิด(5 ก.ค.) ที่ 3,224 จุด ลดลง 61 จุด (-1.86%)
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทเคราะห์ฯว่า หุ้นในกลุ่มเดินเรืออย่าง TTA และ PSL ราคาปรับตัวขึ้นมาแรงตามดัชนีค่าระวางเรือในตลาดโลก (BDI) โดย BDI ปรับตัว +144% YTD ตามการขาดแคลนเรือทั่วโลกและความต้องการขนส่งทางเรือที่เพิ่มสูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะเริ่มปรับลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาตามมาตรการควบคุมราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนที่ในที่สุดจะกระทบกับค่าระวางเรือ
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของ TTA และ PSL ก็ปรับขึ้นมาสะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าว หลังจากนี้ราคาหุ้นน่าจะปรับลดลงจากการเป็น low season จึงแนะนำ ขายทำกำไร/ short จากราคาหุ้นปัจจุบันที่เกินกว่าราคาเป้าหมายไปมากแล้ว
ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ดัชนีค่าระวางเรือแย่มา 6-7 ปีมาแล้ว ปัจจุบันดัชนีอยู่ในระดับสูงเอื้อต่อค่าระวางเรือของผู้ประกอบการที่ปล่อยเช่าเรือ ผลดำเนินงานของกลุ่มเดินเรือก็จะออกมาดี แต่ก็มองเป็นแค่ “โอกาส” เพราะการที่ค่าระวางเรือสูงขึ้นเป็นเพราะเกิดช็อตซัพพลาย ซึ่งรอบนี้ช็อตนาน ถ้าผ่านไปได้เชื่อว่าค่าระวางเรือก็จะลดลง คิดว่าอีกไม่นานประมาณ 6 เดือนข้างหน้า และมองว่าราคาหุ้นกลุ่มเดินเรือจะพลิกมาอ่อนตัวลงก่อน แต่เมื่อขณะนี้ยังไม่เห็นสถานการณ์ช็อตซัพพลายจะจบตรงไหน ดังนั้นราคาหุ้นก็คงจะขึ้น ๆ หยุด ๆ แต่จากจุดนี้คือปลายทางแล้ว หุ้นไม่น่าไปได้ไกล ช่วงหลังจึงไม่แนะนำเลย ตอนนี้เชื่อว่าไม่มีใครเดาซัพพลายถูก
“เรือได้ขนสินค้าส่งไปถึงที่หมายแล้ว แต่ไม่สามารถนำสินค้าลงจากเรือได้เพราะมีปัญหาเรื่องติดโควิด ทำให้เรือต้องจอดกองอยู่ตรงนั้น แม้ปริมาณขนส่งโลกจะมากขึ้นแต่เชื่อว่าไม่มีทางเท่ากับสมัยที่เศรษฐกิจดี เลยเชื่อว่าเรือน่าจะไปจอดออกันที่ท่าใดท่าหนึ่งมากกว่า ทำให้ปริมาณเรือหดหายไป”
นายมงคล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นในกลุ่มเดินเรือถือว่าใช้ได้ แต่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว เพราะถ้าเล่นหุ้นที่ราคาสูงขนาดนี้ ถ้าปรับตัวลงจะทำยังไง ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาเองว่า มีการป้องกันความเสี่ยงดีหรือยัง ดังนั้นถ้าจะเล่นก็ต้องระวัง พร้อมประเมินผลดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มเดินเรืองวดไตรมาส 2/64 ที่คาดว่าจะออกมาดีตามค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง
“การที่ค่าระวางเรือขึ้นสูงนี้แน่นอนย่อมเป็นผลบวกต่อกลุ่มเดินเรือ ซึ่งมันเป็นโอกาสของเขา ไม่ได้เกิดจากการสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตัวเอง”
นายมงคล กล่าว
พร้อมให้ราคาเป้าหมายบมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) ไว้ที่ 24 บาท และบมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) ให้ราคาเป้าหมายที่ 19 บาท ส่วนหุ้นบมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) ไม่ได้ทำการวิเคราะห์
หุ้น | ราคาปิด (บาท) (4 ม.ค.64) | ราคาปิด (บาท) (30 มิ.ย.64) | เพิ่มขึ้น (บาท) | เพิ่มขึ้น(%) | ราคาเป้าหมายเฉลี่ย (บาท) |
---|---|---|---|---|---|
PSL | 7.95 | 20.90 | 12.95 | 162.89 | 24.17 |
TTA | 6.35 | 16.90 | 10.55 | 166.14 | 20.85 |
RCL | 17.50 | 55.00 | 37.50 | 214.29 | 60.00 |
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 64)
Tags: Baltic Dry Index, BDI, PSL, RCL, TTA, ชิปปิ้ง, ดัชนีค่าระวางเรือ, ธุรกิจการเดินเรือ, มงคล พ่วงเภตรา, เรือขนส่งสินค้า, โลจิสติกส์