นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 64 จะเติบโตกว่าปี 63 แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกระทบกับโครการการก่อสร้างต่างๆให้ชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตามมองว่าเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น และหลังจากที่มีการกระจายตัวของวัคซีนเพิ่มขึ้น เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ก็จะช่วยหนุนให้โครงการก่อสร้างต่างๆกลับมา และในระยะเวลานี้บริษัทได้เคลื่อนย้ายการขนส่งไปยังพื้นที่ที่สามารถดำเนินโครงการก่อสร้างตามปกติเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรทางธุรกิจอีกราว 3-4 โปรเจ็กต์ เพื่อขยายบริการด้านขนส่งไปยังกลุ่มสินค้าเฉพาะทาง และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นอีกแหล่งรายได้ที่ช่วยสนับสนุนให้ MENA มีการเติบโตเพิ่มขึ้นคาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/64
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนการเสนอขายหุ้น IPO รวมมูลค่า 220.80 ล้านบาท จะนำไปใช้สำหรับลงทุนโครงการในอนาคต 160.80 ล้านบาท รวมถึงนำไปใช้จ่ายคืนหนี้สิน 20 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ 40 ล้านบาท สนับสนุนให้ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และต้นทุนทางการเงินลดลง ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนการเจรจาเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อที่จะเข้าซื้อหากมีความคืบหน้าบริษัทจะนำเสนอรายละเอียดของการเข้าซื้อกิจการอีกครั้ง สำหรับบริษัทเองได้มีมาตรการป้องกันโดยให้บุคลากรของบริษัทเข้ารับการฉีดวัคซีนมากกว่า 50% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดแล้ว และยังคงดำเนินการป้องกันความเสี่ยงด้านการติดเชื้อด้านอื่นๆเพื่อที่จะไม่ให้เกิดปัญหาต้องหยุดเดินรถขนส่ง
“ต้องขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ MENA โดยบริษัทยืนยันว่าจะมุ่งมั่นขยายงานและต่อยอดทางธุรกิจ โดยโครงการต่างๆที่อยู่ระหว่างเจรจา 2-3 โครงการ คาดจะประกาศความชัดเจนว่าจะเข้าไปร่วมขยายงานส่วนไหนบ้าง แต่ยังขอเวลาเจรจากับผู้ค้าสักระยะก่อน”
นางสุวรรณา กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ก.ค. 64)
Tags: MENA, ขนส่งสินค้า, มีนาทรานสปอร์ต, สุวรรณา ขจรวุฒิเดช, หุ้นไทย, โลจิสติกส์