รัฐบาลมาเลเซียมีมติเห็นชอบให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับเด็กอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปที่มีภาวะโรคประจำตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากอาการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงหากได้รับเชื้อโควิด-19 โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มในช่วงก่อนเปิดภาคเรียน
นายแพทย์อัดฮัม บาบา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย เปิดเผยว่า วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์เป็นวัคซีนตัวแรกที่ได้รับอนุมัติให้นำมาใช้สำหรับเด็กอายุ 12-18 ปีซึ่งมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ
นายแพทย์บาบากล่าวว่า เด็กกลุ่มนี้จะได้รับการจัดสรรให้ฉีดวัคซีนพร้อมกับครูอาจารย์และบุคลากรของสถานศึกษาในช่วงเฟส 2 และเฟส 3 ตามโครงการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 แห่งชาติ (National Covid-19 Immunisation Programme: PICK) เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียน ส่วนเด็กกลุ่มอื่นๆ นั้นจะได้รับการฉีดวัคซีนในเฟสถัดไป
“เราขอแนะนำให้เด็กวัยรุ่นซึ่งมีโรคประจำตัวและมีความเสี่ยงสูงต่อการเจ็บป่วยขั้นรุนแรงจากโรคโควิด-19 เข้ารับการฉีดวัคซีน เด็กกลุ่มนี้จะได้รับการป้องกันจากวัคซีนไฟเซอร์”
นายแพทย์บาบากล่าว
นายแพทย์บาบายังเสริมว่า “วัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เราให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีน เรากำลังให้โอกาสพวกเขาได้ป้องกันตนเองในอนาคตด้วย”
ทางด้านนายไครี จามาลุดดิน รัฐมนตรีฝ่ายประสานงาน ระบุว่า สำหรับวัยรุ่นที่ไม่มีโรคประจำตัวจะได้รับวัคซีนหลังเฟส 3 ไปแล้ว
นายจามาลุดดินเผยว่า คณะทำงานด้านการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด-19 (CITF) ได้พิจารณาข้อมูลจากประเทศต่างๆ ที่ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับวัยรุ่นไปแล้ว
“แผนตอนนี้สำหรับวัยรุ่นที่ไม่มีภาวะโรคประจำตัวคือ เราอาจจะฉีดวัคซีนให้เด็กกลุ่มนี้หลังระดมฉีดให้กลุ่มผู้ใหญ่ได้ครอบคลุมแล้ว”
“เมื่อฉีดวัคซีนได้ครบเฟส 3 แล้ว เราจะมีวัคซีนเหลือ ถึงตอนนั้นจะพิจารณาอีกทีว่าจะฉีดวัคซีนของไฟเซอร์หรือซิโนแวกให้เด็กกลุ่มนี้”
นายจามาลุดดิน กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, Pfizer, มาเลเซีย, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, อัดฮัม บาบา, โควิด-19, ไฟเซอร์