บล.คันทรี่ กรุ๊ป ประเมินตลาดหุ้นไทย (SET Index) สัปดาห์นี้เสี่ยงอ่อนตัวลงกรอบ 1,540-1,595 จุด แนะนักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังต่อการลงทุนมากขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศรุนแรง ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันเริ่มยกฐานขึ้นมาเป็น 5,000-6,000 ราย จากก่อนหน้าที่ 2,000-3,000 ราย ขณะที่หน่วยงานแพทย์ได้ระบุว่าตอนนี้สายพันธุ์หลักที่พบใน กทม. คือ DELTA ซึ่งกระจายตัวได้ไวกว่าสายพันธุ์ Alpha (อังกฤษ)
ทั้งนี้ การเร่งตัวของผู้ติดเชื้อต่อวันที่ระดับ 5,000- 6,000 ราย/วัน มีความน่ากังวลคือระบบสาธารณสุขจะรองรับไม่ไหวเนื่องจากปัจจุบันผู้ป่วยรักษาหายต่อวันจะอยู่ที่ 3,000 ราย สวนทางกับผู้ติดเชื้อต่อวันที่ 5,000-6,000 ราย ดังนั้นจะทำให้ทุกๆวันระบบสาธารณสุขจะมีผู้ป่วยเข้ารักษาเพิ่มขึ้นวันละ 2,000-3,000 ราย
หากสถานการณ์ยังดำเนินแบบนี้ต่อไปเชื่อว่าสิ่งที่รัฐบาลจะกระทำคือเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเผชิญในระยะถัดไปหากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ลดลง ขณะเดียวกันหากรัฐบาลตัดสินใจเพิ่มความเข้มงวดจะยิ่งเป็นแรงกดดันต่อเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเชื่อว่าหลังจากเริ่มประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/64 จะเริ่มเห็นนักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์เพื่อสะท้อนการระบาดรอบ 3 รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังยืดเยื้อมองเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้น
ส่วนการก่อสร้างที่นายกฯคลายล็อกให้กลับมาดำเนินการได้มองรับเหมาก่อสร้างรับผลบวก (CK และ STEC) เนื่องจากข้อกำหนดการคลายล็อกของนายกรัฐมนตรีมีงานประเภทเดียวกับที่ CK และ STEC มี Backlog อยู่
ปัจจัยสัปดาห์นี้
- (1) สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ สัญญาณที่เป็นบวกคือจำนวนผู้ติดเชื้อควรลงไปอยู่ระดับ 2,000-3,000 ราย
- (2) PMI ภาคบริการสหรัฐในวันอังคาร Bloomberg ประเมินที่ 63.9 หากดีกว่าคาดจะเป็นบวกในภาพรวม
กลยุทธ์การลงทุน แนะนักลงทุนเพิ่มการถือครองเงินสดมากขึ้นเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ดูรุนแรงจนเสี่ยงจะกระทบกับระบบสาธารณสุข นำมาซึ่งการเข้มงวดของภาครัฐ ถือเป็นความเสี่ยงที่รออยู่ในช่วงถัดไป โดยการเลือกหุ้นช่วงนี้มองกลุ่มส่งออก (ASIAN, CBG, DELTA, HANA, KCE, TU) ปิโตรเคมี (IVL, PTTGC) ผลบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่เติบโตดี รวมไปถึงกลุ่มโรงพยาบาล (BCH, CHG) รับผลบวกจากสถานการณ์โควิด-19
ASIAN (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 20 บาท) คาดกำไรไตรมาส 2/64 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องในทุกธุรกิจอุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารแช่แข็งดีต่อเนื่อง แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงเริ่มเติบโต และคาดมีกำลังการผลิตเพิ่มอีกในช่วงครึ่งหลังปี 64 (2H21)- ไตรมาส 1/64
BCH (ถือ/ราคาเป้าหมาย 21 บาท) เก็งกำไรระยะสั้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อจะเป็นบวกกับผลประกอบการบริษัทหนุนจากการรักษาและการตรวจหาเชื้อ และผลประกอบการจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 3/64 ผิดจากก่อนหน้าที่ตลาดมองกันว่าในไตรมาส 2/64 จะเป็นจุดสูงสุด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 64)
Tags: CGS, SET, SET Index, คันทรี่ กรุ๊ป, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย