แนวโน้มหุ้นไทยเช้าแกว่งตัวไซด์เวย์กังวลโควิดในประเทศระบาดหนัก-บาทอ่อนค่า

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์และอาจซึมตัวลง หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศยังพุ่งสูง 5-6 พันรายต่อวันทำนิวไฮ รวมทั้งกองทุนและต่างชาติขายสุทธิปลายสัดาห์ก่อน เป็นปัจจัยกดดัน SET ยืนเหนือแนวรับสำคัญ 1,580 จุดไม่ได้ และเงินบาทก็ยังอ่อนค่าหลุด 32 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังมีความหวังประชุมโอเปกเพิ่มการผลิต 400,000 บาร์เรล/วันต่ำกว่าหนุนหุ้นกลุ่มโรงกลั่น และสัปดาห์นี้มีพรีวิวงบกลุ่มแบงก์ รวมทั้งติดตาม ศบค.ผ่อนคลายการก่อสร้างบางส่วนหนุน Sentiment กลุ่มรับเหมา และยังต้องเกาะติดภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ให้แนวรับ 1,570-1,565 จุด แนวต้าน 1,586 -1,590 จุด

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ เนื่องจากมีปัจจัยลบจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศสูงถึง 5-6 พันคน/วันทำนิวไฮ ประกอบกับเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (2 ก.ค.) กองทุนและนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ โดยเฉพาะต่างชาติขายสุทธิกว่า 4 พันล้านบาท

ขณะที่ดัชนี SET เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ไม่สามารถยืนเหนือ 1,580 จุดที่เป็นแนวรับสำคัญได้ และวันนี้อาจซึมตัวลงต่อไป เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศมีจำนวนมากน่าจะเป็นแรงกดันตลาด

ส่วนการประชุมโอเปกพลัสที่เลื่อนมาประชุมวันนี้ (5 ก.ค.) คาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะผลิตเพิ่ม 500,000 บาร์เรล/วัน รวมทั้งในสัปดาห์นี้จะมีการคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 2/64 ของกลุ่มธนาคารที่จะประกาสงบการเงินในสัปดาห์หน้า ก็จะหนุนหุ้นกลุ่มโรงกลั่น และกลุ่มน้ำมัน

นอกจากนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จะมีการผ่อนคลายให้กับการก่อสร้างบางประเภท โดยเฉพาะงานเจาะอุโมงค์ น่าจะหนุน sentiment กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และยังต้องติดตามภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาตามที่คาดการณ์ในไตรมาส 3/64 จำนวน 1 แสนคนหรือไม่

อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องทะลุ 32.17 บาท/ดอลลาร์ ยังคงเป็นแรงกดดันให้นักลงทุนต่างชาติศขายสุทธิจากตลาดหุ้นไทยได้ก็เป็นตัวที่ตลาดซึมลงได้

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,570-1,565 จุด แนวต้านให้ไว้ที่ 1,586 -1,590 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,786.35 จุด เพิ่มขึ้น 152.82 จุด (+0.44%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,352.34 จุด เพิ่มขึ้น 32.40 จุด (+0.75%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,639.32 จุด เพิ่มขึ้น 116.95 จุด (+0.81%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.84 จุด ส่วนดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 73.71 จุด ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 211.51 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ค.) 1,578.49 จุด ลดลง 15.26 จุด (-0.96%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,189.70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ก.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 ก.ค.) ปิด 75.16 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 7 เซนต์ หรือ 0.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ค.) อยู่ที่ 2.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.16 แนวโน้มอ่อนค่าจากโควิดกดดัน มองกรอบ 32.10-32.25
  • หมอแนะปรับแผนฉีดวัคซีนเน้นกลุ่มสูงอายุและ 7 กลุ่มโรคให้เสร็จภายในเดือน ก.ค-ก.ย.ลดอัตราการตายจากสายพันธุ์ “เดลตา” ที่จะระบาดหนักช่วง ส.ค.นี้ ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากหลักพันเหลือวันละ 20 คน ตัวเลขผู้สูงอายุฉีดเข็มที่ 2 แค่ 0.7% ขณะที่ 7 กลุ่มโรคฉีดเข็มที่ 2 เพียง 3.2% จากทั้งหมด 16 ล้านคน เผยยอดจองผ่าน “หมอพร้อม” เดือน มิ.ย.ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน โควิด-19 อีก 2.4 ล้านคน
  • หอการค้า-ส.อ.ท.หนุนเป้าเปิดประเทศ 120 วัน ชี้ทุกคนต้องร่วมมือ แนะประเมินเป็นระยะ พร้อมเร่งฉีดวัคซีน “ศุภวุฒิ” แนะแก้ 4 ข้อฝ่าวิกฤติ จี้เร่งฉีดวัคซีนให้ได้ 85% ของประชากร ปรับแผนนำเข้าวัคซีนหลายยี่ห้อ ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ชี้หาก 1 เดือนคุมไม่ได้จ่อหั่นจีดีพี FETCO หวังรัฐเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ “เอกชน”แนะรัฐเปิดเฉพาะเมืองท่องเที่ยวประเมินตัวเลขฉีดวัคซีนต่ำเปิดประเทศยาก
  • ศบค.หารือปรับยุทธศาสตร์-มาตรการรับมือ คาดสัปดาห์นี้ยอดผู้ป่วยโควิดพุ่งอีก คลายล็อก “4 กิจการก่อสร้าง” อนุโลมย้ายแรงงานเฉพาะกรณี ให้อำนาจผู้ว่าฯพิจารณา ขณะที่ 36 จังหวัดรณรงค์เปิดรับผู้ป่วยโควิดกลับมารักษาที่บ้านผ่อนภาระวิกฤติเตียงไอซียู กทม.พร้อมเริ่มมาตรการกักตัวที่บ้าน-ชุมชน
  • โควิดระบาด-ปิดแคมป์ก่อสร้างป่วนส่อฉุดเบิกจ่ายงบฯ ลงทุนต่ำเป้า บัญชีกลางรับ 8 เดือนแรกยังเบิกจ่ายไม่ถึง 50% เหตุผู้ประกอบการส่งมอบงานตามกำหนดไม่ได้ ชง ครม.สัปดาห์นี้ออกมาตรการช่วยเว้นค่าปรับกรณีเหตุสุดวิสัย ย้อนหลังให้ตั้งแต่ปีที่แล้ว พร้อมขยายเวลาจัดซื้อจัดจ้าง ด้าน สคร.ยันรัฐวิสาหกิจกระทบไม่มากมั่นใจเบิกจ่ายลงทุนได้ตามแผน ขึงเป้า 85% ตามเดิมเล็งถกเพิ่มชั่วโมงทำงานหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
  • “คมนาคม” เร่งผลักดัน 6 เมกะโปรเจ็คต์ มูลค่า 2.72 แสนล้าน หวังช่วยพยุงเศรษฐกิจช่วงวิกฤตโควิดเดินหน้าลงนามสัญญาไฮสปีดไทย-จีน เพิ่ม 4 สัญญา ลุยเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ “ศักดิ์สยาม” เผยงานก่อสร้าง 1.8 แสนล้าน ยันไม่กระทบ เบิกจ่ายต่อหน้าได้แล้ว 50 %

หุ้นเด่นวันนี้

  • KBANK (กรุงศรี) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 162 บาท เซ็นสัญญาจัดจำหน่ายประกันผ่านธนาคาร (bancassurance) ของ MTL เป็นเวลา 10 ปี โดย KBANK จะได้รับค่าตอบแทน 1.27 หมื่นลบ. และโบนัสส่วนเพิ่มตามผลการดำเนินงานในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันของ MTL ทั้งนี้ เราประเมินว่าสัญญาข้อตกลงนี้จะสร้างอัพไซด์ให้ราว 2% จากประมาณการกำไรของเรา
  • SONIC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5 บาท คาดผลกระทบจำกัดจากมาตรการกึ่งล็อกดาวน์โควิด-19 ระลอก 3 ขณะที่แนวโน้มกำไร Q2/64 คาดยังโดดเด่นต่อเนื่องไม่แพ้ Q1/64 จากค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังปรับตัวขึ้น คาดกำไรปี 64-65 +102% Y-Y และ +5% Y-Y ตามลำดับ และคาดมี Upside ขณะที่ SONIC-W1 จะช่วยรองรับการเติบโตระยะยาวด้านฐานทุนสำหรับขยายธุรกิจสินเชื่อรถหัวลากซึ่งมีงานขนส่งรอบรับให้ลูกค้า
  • SKE (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 1.30 บาท หลังเพิ่มทุนและซื้อ N15 ในเดือนมิ.ย.(ธุรกิจบริหารจัดการขยะ) มีแผน M&A ธุรกิจขยะเพิ่มเติมเพื่อป้อนโรงไฟฟ้า คงเป้ารายได้ปี 64 ที่ 700 ลบ.เติบโต 30%YoY ด้าน N15 จะเริ่มรวมงบเข้ามาเต็มไตรมาสตั้งแต่ Q3/64 หนุนรายได้เข้าเป้า รัฐทยอยเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดปี 64-67 มีแผนรับซื้อไฟฟ้ามากกว่า 150 MW เอกชนขานรับพร้อมประมูล

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 64)

Tags: , , , ,
Back to Top