ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า เขาได้สั่งการให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐสอบสวนว่า ใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีแรนซัมแวร์ที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจอเมริกันหลายร้อยแห่ง และมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับรัสเซีย
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แฮกเกอร์ได้ทำการโจมตีซอฟต์แวร์การจัดการเทคโนโลยีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายของบริษัทคาเซยา (Kaseya) โดยพวกเขาเปลี่ยนเครื่องมือของคาเซยาที่มีชื่อว่า VSA ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทต่าง ๆ ใช้จัดการเทคโนโลยีภายในองค์ร จากนั้นก็เข้ารหัสไฟล์ของลูกค้าของคาเซยาทั้งหมดพร้อมกัน
บริษัทรักษาความปลอดภัยฮันเทรสส์ แลบส์ (Huntress Labs) กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า ทางบริษัทเชื่อว่าแก๊งแรนซัมแวร์ REvil ที่เชื่อมโยงกับรัสเซียคือผู้ที่ทำการโจมตีครั้งล่าสุด หรือเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยโจมตีบริษัทเจบีเอส ผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่ของโลก
นายไบเดนกล่าวว่า “เรายังไม่แน่ใจว่าใครอยู่เบื้องหลังการโจมตี” และอาจไม่ใช่รัสเซียรัสเซีย แม้จะยังไม่มั่นใจก็ตาม
นายไบเดนกล่าวว่า เขาได้สั่งการให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐเร่งทำการสอบสวน และสหรัฐจะตอบโต้หากพวกเขาพบว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องจริง
อนึ่ง ระหว่างการประชุมสุดยอดที่สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน นายไบเดนได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิเมียร์ ปูติน ปราบปรามแฮกเกอร์ที่มาจากรัสเซีย และเตือนถึงผลที่ตามมาหากการโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ดังกล่าวยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ก.ค. 64)
Tags: Kaseya, คาเซยา, รัสเซีย, สหรัฐ, แฮกเกอร์, โจ ไบเดน, โจมตีทางไซเบอร์