สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) เรียกร้องให้กลุ่มผู้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตรวจสอบว่า วัคซีนของพวกเขามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์หรือไม่
มาร์โค คาวาเลอรี หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์วัคซีนขององค์การ EMA เปิดเผยว่า EMA จะตรวจสอบผลการศึกษาเหล่านี้ เพื่อสรุประดับการป้องกันเชื้อไวรัสชนิดกลายพันธุ์ของวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบัน
“เราตระหนักถึงความกังวลในกรณีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของสายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์อื่นๆ ตอนนี้ดูเหมือนว่าวัคซีน 4 ตัวที่ผ่านการอนุมัติใน EU จะมีประสิทธิภาพป้องกันไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดอยู่ในยุโรป ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตาด้วย”
ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 4 ตัว ได้รับอนุมัติใช้งานกรณีฉุกเฉินในสหภาพยุโรป (EU) ได้แก่ วัคซีนของบริษัทบิออนเทค/ไฟเซอร์, โมเดอร์นา, แอสตร้าเซนเนก้า และจอห์นสันแอนด์จอหน์สัน
คาวาเลอรีระบุว่า “ข้อมูลจากการใช้งานจริงบ่งชี้ว่า วัคซีน 2 โดสมีประสิทธิภาพป้องกันสายพันธุ์เดลตา ขณะข้อมูลจากห้องปฏิบัติการเปิดเผยว่า แอนติบอดีจากวัคซีนสามารถป้องกันสายพันธุ์ดังกล่าวเช่นกัน นี่จึงถือเป็นข่าวที่สร้างความมั่นใจให้เรา”
ทั้งนี้ EMA ยังศึกษาว่า การฉีดวัคซีน 2 โดสจะเพียงพอสำหรับการป้องกันโรคโควิด-19 หรือจำเป็นต้องมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มเติม โดยคาวาเลอรีระบุว่า “เรายังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า การฉีดวัคซีนกระตุ้นเพื่อรักษาระดับการป้องกันเป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่”
คาวาเลอรีระบุเสริมว่า EMA ทราบถึงกลยุทธ์การฉีดวัคซีนร่วมกันที่บางประเทศสมาชิกนำมาใช้ โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเคยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าประสบความสำเร็จและมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ อย่างไรก็ตาม EMA ไม่อยู่ในฐานะที่จะตัดสินชี้ขาดเกี่ยวกับการใช้แผนการข้างต้นได้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 64)
Tags: AstraZeneca, Biotech, COVID-19, EMA, EU, Moderna, Pfizer, XINHUA, จอห์นสันแอนด์จอหน์สัน, ฉีดวัคซีน, บิออนเทค, มาร์โค คาวาเลอรี, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สหภาพยุโรป, องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป, แอสตร้าเซนเนก้า, โควิด-19, โมเดอร์นา, ไฟเซอร์