ทำเนียบขาวเตรียมส่งทีมงานชุดพิเศษลงพื้นที่จุดเสี่ยงทั่วสหรัฐเพื่อรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา หลังพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคอยู่ในระดับต่ำ
การระดมฉีดวัคซีนอย่างรวดเร็วในสหรัฐส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างมาก จากที่เคยมีผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยสูงสุดต่อสัปดาห์มากกว่า 250,000 รายเมื่อเดือนม.ค. จนลดลงเหลืออยู่ที่ราว 11,000 รายในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ดี ยอดผู้ติดเชื้อรายวันได้กลับมาเพิ่มขึ้นราว 10% แตะที่ 12,500 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากคงระดับไว้ได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในแถบมิดเวสต์และตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐซึ่งมีอัตราการฉีดวัคซีนในระดับต่ำ และยังพบการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
ทางด้านนายเจฟฟ์ เซียนท์ ที่ปรึกษาระดับอาวุโสด้านการรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทีมรับมือสถานการณ์โควิด-19 จะเร่งจัดหาอุปกรณ์การตรวจและยารักษาโรคโควิด-19 เพิ่มเติมให้กับชุมชนที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น
ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ประชาชนกว่า 180 ล้านคน ซึ่งครอบคลุมวัยผู้ใหญ่ 66% ในสหรัฐได้รับวัคซีนโดสแรกแล้ว อย่างไรก็ดี อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในกว่า 1,000 เคาน์ตียังอยู่ในระดับต่ำกว่า 30%
“เห็นได้ชัดว่าชุมชนที่ยังมีความเสี่ยงล้วนเป็นชุมชนที่ประชาชนยังไม่ได้รับวัคซีน ขณะที่เชื้อสายพันธุ์เดลตามีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์ที่มีการระบาดมากเป็นอันดับสองในสหรัฐ” ดร.วาเลนสกีกล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 64)
Tags: COVID-19, สายพันธุ์เดลตา, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์อินเดีย, โควิดสายพันธุ์เดลตา