ศปก.ศบค. หารือสธ. รับมือหลังแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเพิ่มสูงขึ้น

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า จากตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงทำลายสถิติว่า เช้าวันนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังประชุมหารือถึงแนวทางที่จะดำเนินการในขั้นต่อไป และจะมีหารือในที่ประชุม ศปก.ศบค.ต่อไป

ในสัปดาห์หน้าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะสูงขึ้นอีก ซึ่งเป็นไปตามการประเมินของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ประเมินไว้ แต่ทั้งนี้จะพยายามเร่งรัดการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้มากขึ้น โดยเมื่อวัคซีนนำเข้ามาแล้วก็จะเร่งฉีดทันทีให้เร็วที่สุด คาดการณ์ว่า สถานการณ์จะเป็นในลักษณะนี้อีกสักระยะหนึ่ง แต่ขอความร่วมมือประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐ โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างสวมหน้ากาก เนื่องจากได้สั่งปิดแคมป์คนงานไปแล้ว ดังนั้นแรงงานต่างด้าวก็อยู่นิ่ง ซึ่งตัวเลขที่สูงขึ้นอาจเกิดจากการเคลื่อนไหวของประชาชนทั่วไป เพราะฉะนั้นเราต้องขอความร่วมมือประชาชน แต่การพูดในลักษณะนี้ไม่ได้โทษประชาชน

พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่า แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่มีการเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดไปกว่านี้ เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นห่วงความเดือดร้อนของประชาชนเนื่องจากเห็นว่ามาตรการที่มีอยู่เพียงพอแล้ว แต่ต้องมีการขอความร่วมมือผู้ประกอบการต่างๆและภาครัฐต้องลงรายละเอียดในมาตรการมากขึ้น ซึ่งทุกส่วนต้องร่วมมือกันควบคู่กันไป เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงไม่ให้มีการแพร่เชื้อ

สำหรับการรอเตียงของผู้ป่วยที่มีจำนวนมากภายหลังพบว่ามีการกระจายออกไปรักษานอกพื้นที่ กทม.นั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นไปโดยธรรมชาติเมื่อประชาชนไม่สามารถรอเตียงได้ก็เดินทางกลับไปรักษายังภูมิลำเนาของตนเอง แต่ในระบบของกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร พยายามเพิ่มขีดความสามารถในการเพิ่มจำนวนเตียงให้ผู้ป่วย โดยวันนี้ที่โรงพยาบาลมณฑลทหารบกที่ 11 มีการเพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงเพิ่มขึ้นและสามารถเปิดใช้บริการได้ภายในวันนี้

ขณะเดียวกันมีการปรับปรุงระบบการรักษาตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation เบื้องต้นให้มีระบบและมาตรฐานมากขึ้นไม่ได้ปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่ที่บ้านเฉยๆ แต่ต้องมีระบบในการรองรับที่ดีและมีความพร้อม ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นห่วงว่า ไม่มีระบบรองรับในการแยกกักตัวรักษาอยู่ที่บ้านอาจทำให้เสี่ยงอาการรุนแรงขึ้น จึงต้องมีระบบติดตามตรวจสอบให้พร้อมก่อน

พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่า ขณะนี้รัฐบาลและศบค.พยายามวางแผนเพื่อที่จะรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งต้องเพิ่มจำนวนเตียงให้มากขึ้น รวมถึงระบบการแยกกักตัวที่บ้าน โดยศบค.วางแผนและคิดไว้ทุกระบบทุกอย่าง หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันและทุ่มเทให้มากขึ้นก็จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เสนอให้มีการยุบศบค.เนื่องจากทำงานไม่มีประสิทธิภาพและล้มเหลวนั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าว แต่ยืนยันว่า การทำหน้าที่ของศบค.ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่เป็นผอ.ศบค.และเป็นผู้บังคับบัญชาที่จะพิจารณาอย่างเหมาะสม แต่ขอให้มั่นใจว่าการทำงานของ ศบค.ที่ผ่านมาสามารถที่จะแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิดได้ เพราะคำว่า ศบค.มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขที่ ศบค.ต้องรับฟังความคิดเห็นมากที่สุด ไม่ใช่การตัดสินใจเพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้น และขณะนี้การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดในไทยมาเป็นระลอก และมีหลายสายพันธุ์เข้ามาซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตลอดเวลา แต่ทุกคนทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ จึงขอให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ทำงานทั่วประเทศ

ส่วนข้อเรียกร้องของแพทย์และพยาบาลที่ต้องการวัคซีนเข็มที่ 3 นั้น ทางศบค. อยู่ระหว่างการพิจารณากับกระทรวงสาธารณสุขอยู่ แต่ขณะนี้ต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้กับทุกคนก่อน เนื่องจากวัคซีนมีจำกัดและส่วนของประชาชนที่ยังไม่ได้รับเข็มแรก เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขั้นต้นก่อน ก่อนจะมีเข็มที่ 2 ตามมา ส่วนเข็มที่ 3 นั้นยังไม่ได้พิจารณาถึงขั้นนั้น เพราะถือว่า วัคซีนยังไม่เพียงพอจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนเข็มแรกให้ทั่วถึงก่อน

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 64)

Tags: , , , , , , , ,
Back to Top