นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง (SAK) เปิดเผยว่า บริษัทฯ สนับสนุนมาตรการตัดชำระแบบแนวนอน โดยตัดค่าธรรมเนียม ดอกเบี้ย และเงินต้นของยอดค้างชำระที่เก่าที่สุดก่อนแล้วค่อยตัดยอดที่ค้างชำระลำดับถัดมา ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 ตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ทั้งนี้การดำเนินมาตรการตัดชำระแบบแนวนอน ช่วยลดภาระหนี้ให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้เงินต้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยให้ SAK บริหารคุมหนี้ NPLs ให้อยู่ที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติมอย่างเร่งด่วนใน 3 กลุ่มประเภทสินเชื่อ ได้แก่
1.สินเชื่อส่วนบุคคล โดยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้นานขึ้น และลดค่างวดร้อยละ 30 ของค่างวดเดิม โดยคิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไม่เกินร้อยละ 22 ต่อปี
2.สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน จะขยายเวลาการชำระหนี้ให้นานขึ้น โดยลดค่างวดร้อยละ 30 ของค่างวดเดิม โดยคิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมไม่เกินร้อยละ 22 ต่อปี หรือสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรง หากมีหนี้คงเหลือจากการขายประมูล บริษัทฯ จะพิจารณาให้การช่วยเหลือในการลดภาระหนี้เป็นกรณี
3.สินเชื่อเช่าซื้อ ดำเนินการหักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือนหรือลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาการชำระหนี้ หรือสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงหากมีภาระหนี้คงเหลือจากการขายประมูล บริษัทฯ จะพิจารณาให้การช่วยเหลือในการลดภาวะหนี้เป็นกรณีไป โดยลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ทุกสาขาทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17.พ.ค.-31 ธ.ค. 2564
“ในภาวะที่ลูกหนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากจากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เราได้เร่งดำเนินมาตรการตัดชำระแนวนอนตามนโยบายของ ธปท. เพื่อบรรเทาและลดผลกระทบประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ยังออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม เพื่อตอกย้ำ ศักดิ์สยาม ลิสซิ่ง มีความมุ่งมั่นเป็นสินเชื่อรายย่อยเพื่อประชาชนฐานราก ที่โปร่งใส เป็นธรรม เข้าใจและเข้าถึง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน”
นายศิวพงศ์ กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ก.ค. 64)
Tags: SAK, ค่าธรรมเนียม, ดอกเบี้ย, ธนาคารแห่งประเทศไทย, ธปท., ลูกหนี้, ศักดิ์สยามลิสซิ่ง, ศิวพงศ์ บุญสาลี, สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน, สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อเช่าซื้อ