เบริล 8 พลัส ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 50 ล้านหุ้น เข้า mai ใช้ขยายสาขา-พัฒนาผลิตภัณฑ์-ร่วมทุน

บมจ.เบริล 8 พลัส ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ตอ่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ไม่เกิน 50,000,000 หุ้น คิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.ทรีนีตี้ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

บริษัทประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ให้บริการแบบครบวงจรในด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM), การวิเคราะห์ข้อมูล และเทคโนโลยีดิจิทัล มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเกี่ยวกับระบบ CRM ที่ใช้ซอฟต์แวร์ Salesforce และเป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ของบริษัทชั้นนำ เช่น Salesforce, Google, MuleSoft, และ Tableau ในปี 63 บริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนาม และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายซอฟต์แวร์ Salesforce เป็นรายแรกในประเทศเวียดนาม

ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (61-63) บริษัทให้บริการเป็นที่ปรึกษาและติดตั้งงานระบบให้แก่ลูกค้ารวมกว่า 250 โครงการ มีลูกค้ารวมกว่า 146 ราย แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ 38 ราย และลูกค้าขนาด SME 108 ราย

วัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ขยายสาขาไปยังต่างประเทศ ลงทุนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือธุรกิจอื่นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจ และ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

บริษัทเล็งเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจในต่างประเทศ และได้ตั้งเป้าหมายในการเป็นผู้นำการให้บริการด้าน Digital transformation และการติดตั้งระบบ CRM แบบครบวงจรโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทคาดว่าจะเริ่มทำการตลาดและขยายการให้บริการในเวียดนามได้ตั้งแต่ปี 64-66 หลังบจกาสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และอยู่ระหว่างการพิจารณาโอกาสในการลงทุนและขยายการให้บริการไปยังประเทศอื่นๆ ในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว และเมียนมา

บริษัทยังมีเป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อต่อยอดซอฟท์แวร์หลักที่บริษัทให้บริการติดตั้งให้แก่ลูกค้าในปัจจุบัน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละภาคอุตสาหกรรม และเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของลูกค้าได้มากขึ้น เช่น แอพพลิเคชั่นสำหรับกลุ่มสถาบันการเงิน หรือกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามลักษณะการใช้งาน เช่น โปรแกรม Salesforce-Line Integration โปรแกรม Tenant Management โปรแกรม Omni Channel Package และ โปรแกรม Telesales Management เป็นต้น คาดว่าจะมีระยะเวลาดำเนินการในช่วงปี 64-66 โดยแหล่งเงินทุนหลักจะมาจากการเสนอขายหุ้น IPO

ณ วันที่ 18 มิ.ย.64 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท และทุนชำระแล้ว 75.00 ล้านบาท โดยบริษัทได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อวันที่ 28 พ.ค.64 โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มเทวินทรภักดี ถือหุ้น 40.10% ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนหุ้นเหลือ 30.08%, นางสาวนิธินารถ สินธุเดชะ 7.06% จะลดเหลือ 5.30%, นายวรวิญญ์ เทวินทรภักดี ถือหุ้น 6.94% จะลดเหลือ 5.20%, นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ 5.32% จะลดเหลือ 3.99% และนางสาวอมลยา ผุสสราค์มาลัย 4.80% จะลดเหลือ 3.60%

ผลประกอบการช่วงปี 61-63 บริษัทมีรายได้เท่ากับ 211.57 ล้านบาท, 311.49 ล้านบาท และ 312.54 ล้านบาทตามลำดับ กำไรสุทธิ เท่ากับ 35.54 ล้านบาท, 64.26 ล้านบาท และ 23.64 ล้านบาทตามลำดับ

ส่วนงวดไตรมาส 1/64 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 87.22 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 79.75 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 17.09 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 14.07 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทฯและบริษัทย่อยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40.00 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ และบริษัทย่อย

นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบริล 8 พลัส กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจให้แก่ลูกค้าผ่านเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง การแข่งขันผ่านกระบวนการ Digital Transformation สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาเสริมสร้าง ศักยภาพ

บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาคุณภาพการให้บริการและความสำเร็จของโครงงานมาโดยตลอด จากการพัฒนาองค์ความรู้ด้านบุคลากรให้มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด รวมถึงมีความเข้าใจในความต้องการของผู้ประกอบการในแต่ละอุตสาหกรรมอย่างดี ทำให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผล จึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและพันธมิตรชั้นนำทั่วโลกอย่างต่อเนื่องจากมาตรฐานการทำงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ส่งผลให้ Salesforce Ventures ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของ Salesforce ตัดสินใจเข้าลงทุนในบริษัท

“เรามุ่งนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบในทุกอุตสาหกรรมด้วยซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก ที่เข้ามาช่วยส่งเสริมการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า จัดเก็บข้อมูลและบริหาร Big Data ขององค์กรแล้วนำมาใช้วิเคราะห์เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตจากการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ พัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจอย่างถูกต้อง เพิ่มความรวดเร็วและคุณภาพ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจอย่างยั่งยืน”

นายอภิเษก กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ก.ค. 64)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top