รัฐบาลออสเตรเลียตัดสินใจขยายมาตรการล็อกดาวน์และการเว้นระยะห่างทางสังคมให้ครอบคลุมในหลายพื้นที่ของประเทศในวันนี้ โดยขณะนี้มี 4 เมืองใหญ่ที่อยู่ภายใต้การล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
ชาวออสเตรเลียกว่าครึ่งของประเทศอยู่ภายใต้คำสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน ขณะที่อีกหลายล้านคนต้องเผชิญกับมาตรการจำกัดการเดินทาง ตลอดจนการสวมหน้ากากอนามัยท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ ซิดนีย์ซึ่งมีประชากรมากกว่า 5 ล้านคนได้ประกาศล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์จนถึงวันที่ 9 ก.ค. ส่วนรัฐนิวเซาท์เวลส์รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 22 รายในวันนี้ ซึ่งผู้ติดเชื้อทั้งหมดเชื่อมโยงกับการติดเชื้อก่อนหน้านี้
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วง 2 วันก่อนหน้า แต่ยังต่ำกว่าจุดสูงสุดของแพร่ระบาดระลอกปัจจุบัน ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่วันเดียวถึง 30 ราย
นางแกลดีส์ เบเรจิเคลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์กล่าวว่า “นิวเซาธ์เวลส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในอัตราคงที่ โดยจนถึงวันนี้ ความวิตกกังวลที่ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่อาจเพิ่มสูงขึ้นยังไม่ปรากฎให้เห็น และเราต้องการที่จะให้เป็นเช่นนี้ต่อไป”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, ซิดนีย์, รัฐนิวเซาท์เวลส์, ล็อกดาวน์, ออสเตรเลีย, แกลดีส์ เบเรจิเคลียน, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์เดลตา