ดัชนีกลุ่มการแพทย์ขยับขึ้น 1.60% มาอยู่ที่ 5,607.16 จุด เพิ่มขึ้น 88.10 จุด เมื่อเวลา 11.02 น. นำโดย
- หุ้น CMR พุ่ง 7.75% มาอยู่ที่ 2.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 37.50 ล้านบาท
- หุ้น CHG พุ่ง 6.95% มาอยู่ที่ 4.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 848.35 ล้านบาท
- หุ้น BCH พุ่ง 6.42% มาอยู่ที่ 23.20 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 779.40 ล้านบาท
- หุ้น THG พุ่ง 5.56% มาอยู่ที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 38.00 ล้านบาท
- หุ้น VIH พุ่ง 5.50% มาอยู่ที่ 11.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 23.91 ล้านบาท
บล.โนมูระ พัมนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯคงน้ำหนักลงทุน Bullish กลุ่มการแพทย์ ปัจจุบันโรงพยาบาลที่ศึกษา 5 แห่ง รับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และมีอัตราการเข้ารักษาสูงขึ้นในไตรมาส 2/64 ซึ่งเป็นผลของการระบาดระลอกเดือน เม.ย.64 จากการสอบถามกับโรงพยาบาล พบว่า บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) มีเตียง โรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ราว 1,000 เตียง สัดส่วนราว 49% ของจำนวนเตียงทั้งหมด รองมาเป็น บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) มีเตียงราว 300 เตียง สัดส่วน 40%, บมจ.ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) มีเตียงราว 100 เตียง สัดส่วน 33%, บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มีเตียง 1,600 เตียง สัดส่วน 26% และบมจ.โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ (BH) มีเตียง 60 เตียง สัดส่วน 12%
ทำให้คาดว่า BDMS, BCH, CHG และ THG จะมีรายได้เสริมจากโควิด-19 เป็นสัดส่วนต่อรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/64 รวมทั้งคาดว่าในไตรมาส 2/64 รายได้ของโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะเติบโตเด่น y-y และเติบโตต่อเนื่อง q-q ในเบื้องต้นคาดว่า BCH จะมีรายได้เสริมโควิด-19 เป็นสัดส่วนราว 42% ของรายได้ไตรมาส 2/64 รองมาได้แก่ CHG คาดมีสัดส่วน 17%, BDMS คาดมีสัดส่วนรายได้ 15% และ THG คาดมีสัดส่วนรายได้ 12%
พร้อมเลือก BDMS ราคาเป้าหมาย 27 บาท เป็นหุ้นเด่น เนื่องจากการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องของไทยเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับทั้งคนในประเทศและชาวต่างชาติกลับมาทำกิจกรรมต่าง ๆ และโรงพยาบาลเอกชน ที่มีฐานลูกค้าต่างชาติ จะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ ทำให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติกลับมามากขึ้นในปี 65 และคาดปี 65 กำไรปกติรวมเติบโตสูงตามการเติบโตของ BDMS และ BH และการฟื้นตัวของ THG รวมทั้งมี upside จากรายได้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก
อย่างไรก็ดี มองเป็น Slightly negative ระยะสั้นต่อกลุ่มโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่งดให้บริการตรวจชั่วคราว เนื่องจากคาดว่าช่วงไตรมาส 3/64 รายได้บริการตรวจคัดกรองของโรงพยาบาลจะลดลงจากไตรมาส 2/64 ซึ่งมียอดตรวจเฉลี่ยต่อวันเร่งตัวขึ้น สำหรับโรงพยาบาลที่ศึกษาฯ ให้บริการตรวจคัดกรองตามเกณฑ์ PUI ได้แก่ BDMS, BCH, CHG และ THG โดย BDMS งดให้บริการไปก่อนหน้า ส่วน THG จำกัดจำนวนให้บริการต่อวัน ขณะที่ BCH และ CHG ยังให้บริการตรวจคัดกรองปกติ ทำให้ BCH และ CHG จะมีผลกระทบต่อรายได้เสริมน้อยกว่าโรงพยาบาลอื่น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 64)
Tags: BCH, CHG, CMR, THG, VIH, การแพทย์, หุ้นไทย, โนมูระ พัมนสิน, โรงพยาบาล