สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA) ออกเอกสารชี้แจงโดยระบุคำเตือนถึงการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา โดยระบุว่าภาวะดังกล่าวเป็นความเสี่ยงที่พบได้น้อย
ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีการทบทวนของ FDA มีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน ในสังกัดของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐ ได้หารือกันเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
เอกสารดังกล่าวได้รับการแก้ไขโดยรวมคำเตือนภาวะกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดวัคซีนดังกล่าวครบทั้งสองโดส โดยจะเริ่มแสดงอาการไม่กี่วันหลังได้รับวัคซีน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่าประโยชน์ของการฉีดวัคซีนนั้นมีมากกว่าความเสี่ยง
ทางด้านนางเจเน็ต วู้ดค็อก รักษาการคณะกรรมการ FDA ระบุในแถลงการณ์ว่า “ความเสี่ยงจากการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบนั้น มีแนวโน้มเกิดได้น้อยมาก เมื่อดูจากตัวเลขการฉีดวัคซีน”
นางวู้ดค็อกกล่าวว่า “ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เมื่อเทียบกับความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยเพราะโควิด-19 รวมถึงอาการแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจถึงขั้นรุนแรง”
รายงานระบุว่า ผู้ป่วยที่เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบมีอยู่กว่า 1,200 ราย ส่วนใหญ่พบในคนวัย 30 ปี รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีน
ข้อมูลของ CDC ระบุว่า ณ วันที่ 11 มิ.ย. สหรัฐฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 300 ล้านโดส โดยมีอัตราการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอยู่ที่ 12.6 รายต่ออัตราการฉีดวัคซีนทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นารวมกันหนึ่งล้านโดส
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, FDA, Moderna, Pfizer, วัคซีน, วัคซีนต้านโควิด-19, สหรัฐ, เจเน็ต วู้ดค็อก, โควิด-19, โมเดอร์นา, ไฟเซอร์