รัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มขึ้นในระดับเลขสองหลักต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขณะที่ทางการรัฐพยายามสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา
“ตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาด ช่วงเวลานี้อาจเป็นช่วงที่น่ากลัวที่สุดซึ่งรัฐนิวเซาท์เวลส์กำลังเผชิญ”
นางกลาดีส แบร์จิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในซิดนีย์
ทั้งนี้ รัฐนิวเซาท์เวลส์ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดในซิดนีย์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สุดของออสเตรเลีย โดยบังคับให้ประชาชนในเมืองสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในอาคารทุกแห่ง รวมถึงในสำนักงาน นอกจากนี้ ยังห้ามประชาชนใน 7 เขตพื้นที่ทางฝั่งตะวันออกและพื้นที่ชั้นในฝั่งตะวันตกเดินทางออกนอกซิดนีย์ รวมถึงจำกัดการรวมกลุ่มในบ้านเพื่อสกัดการระบาดระลอกแรกในรัฐในรอบกว่าหนึ่งเดือน
อย่างไรก็ดี นายมาร์ก แม็คโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียได้ขอให้รัฐนิวเซาท์เวลส์ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วทั้งรัฐ เพื่อสกัดการระบาดขั้นเด็ดขาด และได้เตือนว่า มาตรการควบคุมที่หละหลวมอาจทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียได้ปิดพรมแดนที่ติดต่อกับรัฐนิวเซาท์เวลส์แล้ว
จนถึงขณะนี้ ทางการรัฐนิวเซาท์เวลส์ยังคงไม่ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบตามที่มีการเรียกร้อง แม้ว่าออสเตรเลียจะสามารถควบคุมการระบาดในช่วงที่ผ่านมาได้เป็นผลสำเร็จจากใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบเร่งด่วน รวมถึงการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวด และการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้ออย่างรวดเร็ว
นับตั้งแต่เกิดการระบาด ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพียง 30,400 ราย และเสียชีวิต 910 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, กลาดีส แบร์จิกเลียน, ซิดนีย์, มาร์ก แม็คโกแวน, รัฐนิวเซาท์เวลส์, สายพันธุ์เดลตา, ออสเตรเลีย, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์เดลตา