สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินบาทของไทยได้ร่วงลงอย่างหนักในวันที่ 2 ม.ค. 2563 แม้ก่อนที่ตลาดการเงินในประเทศจะเปิดทำการ
บลูมเบิร์กระบุว่า บาททรุดตัวลง 1.8% ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ในตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2550 สู่ระดับ 30.226 บาท/ดอลลาร์ และได้หักล้างช่วงการแข็งค่าที่ทำไว้ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา หลังจากที่หลุดระดับ 30 เทียบดอลลาร์ในวันที่ 30 ธ.ค.2562
“สิ่งนี้อาจเป็นการแทรกแซงจากธนาคารแห่งประเทศไทย หลังจากที่เคยระบุว่าทางธนาคารกลางจะเข้าดูแลการแข็งค่าของบาท” นายหมิงเจอ หวู่ นักค้าเงินของบริษัท INTL FCStone ในสิงคโปร์กล่าว
ทั้งนี้ บาทถือเป็นสกุลเงินเอเชียที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีที่แล้ว โดยแข็งค่าเกือบ 9% จากการที่นักลงทุนต่างชาติมองว่าบาทเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่ไทยมีตัวเลขทุนสำรอง และมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมาก
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ไทยมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศที่ระดับ 2.22 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ขณะที่มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 3.38 พันล้านดอลลาร์
นายสตีเฟน อินเนส หัวหน้านักวิเคราะห์ตลาดเอเชียของบริษัท AxiTrader กล่าวว่า ธปท.ควรสนับสนุนให้นักลงทุนไทยนำเงินทุนออกไปยังต่างประเทศเพื่อลดการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด
ทางด้านนางสาววชิรา อารมย์ดี ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันที่ 2 ม.ค. 2563 เงินบาทเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงจากที่ได้แข็งค่าเร็วในช่วงก่อนวันหยุดสิ้นปี มาที่ระดับ 30.18 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าอัตราอ้างอิงเฉลี่ยของวันที่ 30 ธ.ค.2562 โดยสภาพคล่องในตลาดเริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่ค่าเงินบาทยังมีความผันผวนสูงในสภาวะที่ตลาดกำลังมีการปรับสมดุลระหว่างแรงซื้อและแรงขายดอลลาร์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 63)
Tags: ค่าเงินบาท, ธปท., เงินบาท