นักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะส่งผลให้เศรษฐกิจของสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างรุนแรง โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อาจร่วงลงได้ถึง 30.1% ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้
คณะนักเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ อัตราว่างงานในสหรัฐอาจจะอยู่ที่ 12.8% และการบริโภคก็มีแนวโน้มที่จะลดลงถึง 31%
คณะนักเศรษฐศาสตร์ ซึ่งนำโดย เอลเลน เซนท์เนอร์ ระบุในรายงานที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ว่า “กิจกรรมทางเศรษฐกิจใกล้จะหยุดนิ่งในเดือนมีนาคม ขณะที่มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมถูกนำใช้มากขึ้นในหลายพื้นที่ และเมื่อสถานการณ์ทางการเงินต้องเผชิญกับภาวะตึงตัวมากขึ้น จึงทำให้ผลกระทบด้านลบที่มีต่อการเติบโตของ GDP ในระยะใกล้กลายมาเป็นปัญหาที่สำคัญมาก”
มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่า GDP ในไตรมาสแรกปีนี้ของสหรัฐจะหดตัวลง 2.4% ส่วน GDP ในไตรมาส 4 คาดว่าจะหดตัวลง 2.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวของ GDP ตลอดทั้งปีลดลงเหลือเพียง 0.3%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 มี.ค. 63)
Tags: COVID-19, GDP, จีดีพี, มอร์แกน สแตนลีย์, สหรัฐ, เศรษฐกิจสหรัฐ, โควิด-19