คณะนักวิจัยของสหรัฐได้เริ่มทำการทดลองว่า ยาสามัญ (generic drug) ที่มีราคาถูกและมีปริมาณมากนั้น จะสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยในการรักษาอาการป่วยที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ได้หรือไม่ ขณะที่ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนและยารักษาอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดังนั้นผู้ป่วยจึงได้รับการดูแลรักษาเพื่อพยุงอาการป่วยเท่านั้น
ในสัปดาห์นี้ มหาวิทยาลัยมินนีโซตาได้เริ่มการทดลองรักษาบุคคลจำนวน 1,500 คนด้วยยา hydroxychloroquine ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย เพื่อดูว่ายาดังกล่าวสามารถป้องกันหรือลดความลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้หรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีการทดลองอีก 2 กรณีที่กำลังศึกษาว่ายา losartan ซึ่งเป็นยาลดความดันเลือดนั้น สามารถนำมาใช้รักษาโรคโควิด-19 ได้หรือไม่
จีน, ออสเตรเลีย และฝรั่งเศสก็กำลังทำการทดลองใช้ยา hydroxychloroquine เพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากที่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเปิดเผยว่า ยาดังกล่าวอาจสามารถใช้รักษาโรคโควิด-19 หลังจากที่เขาเคยหายป่วยจากโรคมาลาเรียในปี 2543 หลังจากที่เขาได้รับการรักษาด้วยยาดังกล่าว
ดร. จาคุบ โทลาร์ คณบดีของโรงเรียนการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยมินนีโซตา และรองประธานฝ่ายกิจการทางคลินิกเปิดเผยว่า ทางมหาวิทยาลัยกำลังพยายามทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อดูว่า จะสามารถทำอะไรได้เพิ่มเติมในการช่วยลดการติดเชื้อโควิด-19 โดยมีแนวโน้มที่จะทราบผลการทดลองภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อโควิด-19 นั้น จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดเพียงเล็กน้อย แต่ราว 20% อาจมีอาการรุนแรงขึ้นจนกลายเป็นโรคปอดอักเสบซึ่งต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 มี.ค. 63)
Tags: COVID-19, ยาต้านไวรัส, ยาสามัญ, สหรัฐ, โควิด-19