หุ้น MAJOR ราคาร่วงลง 12.50% มาอยู่ที่ 14.00 บาท ลดลง 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 88.40 ล้านบาท เมื่อเวลา 15.35 น. โดยเปิดตลาดที่ 15.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 13.80 บาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ว่ารัฐบาลจะไม่มีการปิดเมือง ปิดประเทศ หรือห้ามการเข้า-ออกโดยสมบูรณ์ แต่จะใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยจะยังไม่เข้าสู่การระบาดในระยะที่ 3 แต่ว่ามีแนวโน้มการแพร่กระจายที่เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.วันนี้เห็นชอบมาตรการ 6 ด้านเพื่อลดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้แก่ มาตรการด้านสาธารณสุข ,มาตรการด้านเวชภัณฑ์ป้องกัน ,มาตรการด้านข้อมูล การสื่อสารข้อมูลค่าง ๆ ของรัฐบาล , มาตรการด้านต่างประเทศ ,มาตรการช่วยเหลือเยียวยา และมาตรการด้านมาตรการป้องกัน ลดโอกาสการแพร่ระบาดของโรคในสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งรวมถึงโรงภาพยนตร์ โดยให้ปิดชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน โดยให้ปิดชั่วคราวตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (18 มี.ค.) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
ด้านบล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า กรณีดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เนื่องจากรายได้ราว 70% มาจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ (ซึ่งรวมไปถึงโฆษณาในโรงภาพยนตร์ด้วย) ในภาพระยะสั้น MAJOR จะได้รับผลกระทบจากเชื้อโควิด-19 แต่ยังเชื่อว่าปัจจัยลบดังกล่าวจะส่งผลต่อบริษัทในระยะใดระยะหนึ่งเพียงเท่านั้น หากประเด็นโควิด-19 ผ่านพ้นไป บริษัทจะฟื้นตัวกลับมาสู่สภาวะปกติได้ โดยมองจังหวะนี้เป็นโอกาสในการรอ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ที่ราคาเป้าหมาย 21 บาท แนะนำให้ Wait and See รอเข้าลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป
ทั้งนี้ เชื่อว่าบริษัทจะมีแผนรับมือที่ดีกับประเด็นดังกล่าว โดยบริษัทมีการส่งสัญญาณทั้งการลดเงินเดือนผู้บริหาร ลดจำนวนพนักงาน Part-time เป็น 0 จาก 900 คน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 63)
Tags: MAJOR, ทรีนีตี้, ปิดโรงหนัง, หุ้นไทย, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์, โรงหนัง