ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กจ่อร่วงกว่า 1,300 จุดเมื่อเปิดทำการซื้อขายในวันจันทร์ (9 มี.ค.) หรือคืนนี้ตามเวลาไทย เมื่อประเมินจากทิศทางดาวโจนส์ฟิวเจอร์ตลอดทั้งวันนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq คาดว่า จะปรับตัวลงอย่างหนักเมื่อตลาดเปิดการซื้อขายด้วยเช่นกัน เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดไปยังหลายประเทศในขณะนี้
ณ เวลา 16.12 น. ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ร่วงลง 1,255 จุด หรือ 4.87% แตะที่ 24,534 จุด
ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 0.5% ในช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และการที่ซาอุดีอาระเบียประกาศสงครามน้ำมัน
ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเริ่มต้นของการทำสงครามราคาน้ำมัน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้ โดยข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก เพิ่มขึ้นมากกว่า 100,000 ราย และในบรรดาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวนั้น เสียชีวิตแล้ว 3,484 ราย
ส่วนในสหรัฐนั้น สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รวมถึงสำนักข่าวเอ็นบีซี รายงานว่า ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐ อยู่ที่ 511 รายแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 ราย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มี.ค. 63)
Tags: COVID-19, ซาอุดีอาระเบีย, ดาวโจนส์, น้ำมันดิบ, รัสเซีย, สงครามราคา, โควิด-19, โอเปก