สื่อต่างประเทศรายงานว่า ตลาดหุ้นและตลาดเงินของอินเดียทรุดตัวลงอย่างหนักในวันนี้ หลังธนาคารกลางอินเดีย (RBI) เข้าควบคุมการดำเนินงานของธนาคารเยสแบงก์ (Yes Bank) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของอินเดียซึ่งกำลังประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง ซึ่งการเข้าควบคุมกิจการธนาคารดังกล่าวได้เพิ่มความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบต่อระบบการเงินของอินเดีย
นอกจากนี้ RBI ยังได้จำกัดการถอนเงินของลูกค้าออกจากธนาคารเยสแบงก์ได้รายละ 50,000 รูปี (682 ดอลลาร์) เท่านั้น และได้จำกัดการดำเนินงานของเยสแบงก์อย่างเข้มงวด ในขณะที่รัฐบาลกำลังวางแผนที่จะให้ความช่วยเหลือกับเยสแบงก์
RBI ระบุในแถลงการณ์ว่า ธนาคารกลางต้องเข้าแทรกแซงการดำเนินงานของเยสแบงก์ หลังจากที่ความพยายามครั้งล่าสุดของเยสแบงก์ที่จะระดมทุนครั้งใหม่ประสบความล้มเหลว และเยสแบงก์กำลังเผชิญกับภาวะสภาพคล่องไหลออกอย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้นเยสแบงก์ร่วงลงอย่างหนักกว่า 70% แล้วในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นมุมไบในวันนี้ และดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลงมากกว่า 5% ขณะที่เงินรูปีร่วงกว่า 1% ใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่เข้าทดสอบในเดือนต.ค. 2561 ส่วนดัชนี S&P BSE Sensex ร่วงหนักถึง 3.8%
ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลอินเดียที่จะกอบกู้ธนาคารเยสแบงก์ แสดงให้เห็นถึงความเสียหายในวงกว้างมากขึ้นจากวิกฤตธนาคารเงาของอินเดีย ซึ่งทำให้เยสแบงก์มีหนี้เสียพุ่งขึ้นอย่างมาก
รัฐบาลอินเดียยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมความปั่นป่วนซึ่งส่งผลกระทบกับการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก และส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี
RBI ระบุในแถลงการณ์ว่า หลังจากที่เยสแบงก์ไม่สามารถกำหนดแผนฟื้นฟูกิจการที่น่าเชื่อถือ และเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณะและของผู้ฝากเงิน ทาง RBI จึงจำเป็นต้องเข้าควบคุมการดำเนินงานของเยสแบงก์
ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียได้เข้าควบคุมกิจการของธนาคารเยสแบงก์ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของอินเดียกำลังชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มี.ค. 63)
Tags: ธนาคารกลางอินเดีย, รูปี, วิกฤตการเงิน, เยสแบงก์