นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมสถานกักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) สถานกักกันโรคทางเลือกระดับจังหวัด (Alternative Local Quarantine) และสถานกักกันโรคท้องที่ (Local Quarantine) ณ โรงแรมแกรนด์เบลลา พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบแนวทางการปฏิบัติงานในการควบคุมและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวและมีคนจำนวนมาก ซึ่งมีความเป็นห่วงการตรวจสอบคัดกรองผู้ติดเชื้อ โดยหากมีการสกัดกั้นจากภายนอกได้และมีการดูแลภายในอย่างดี ก็คิดว่าสถานการณ์จะค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีแผนเตรียมโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วย รวมทั้งเตรียมพร้อมกรณีร้ายแรงและกรณีปกติ พร้อมย้ำให้ทุกฝ่ายต้องการ์ดไม่ตก
นายกรัฐมนตรี ยังได้แสดงความเสียใจที่เทศกาลปีใหม่นี้ความสุขต้องหายไป แต่รัฐบาลจำเป็นต้องเข้มงวดเพื่อประโยชน์โดยรวมของคนทั้งชาติ พร้อมทั้งขอให้ช่วยกันสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจกับประชาชนให้อยู่ร่วมกันในสังคม ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก ต้องอดทน โดยหวังให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว
นอกจากนี้ ยังได้ขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนัก และทุกคนเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงที่สุด จึงต้องดูแลระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุด อย่าประมาท ซึ่งหากจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่พอเพียงก็ให้ขอเพิ่มจากส่วนกลางได้ รัฐบาลจะไม่ทิ้งบุคลากรทางการแพทย์ หากมีความเดือดร้อนได้รับผลกระทบ จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ รวมทั้งขอขอบคุณโรงแรมแกรนด์เบลลา ที่ได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล เสียสละเป็นสถานที่กักกันฯ ในช่วงแรกของสถานการณ์โควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งขณะนี้ภาครัฐได้จัดสรรงบประมาณมาสนับสนุนทางโรงแรมแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะดูแลให้ภาคธุรกิจไม่ให้เกิดความเสียหาย
รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์โควิด-19 ทุกวันตลอด 24 ชม. ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรการกลางออกมา โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการในพื้นที่ หากในปีหน้าไม่มีสถานการณ์อะไรอีก ก็จะมีการพิจารณาวันหยุดเพิ่มเติมทดแทนให้ เพื่อให้ภาคธุรกิจดีขึ้น โดยรัฐบาลต้องบริหารสถานการณ์ด้านสุขภาพและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนมีความเป็นห่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดที่รวดเร็วขึ้น ดังนั้น การใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ รีบอาบน้ำเมื่อกลับเข้าบ้าน และไม่ไปในสถานที่ที่เสี่ยง จะช่วยป้องกันเชื้อโควิดได้มากขึ้น หากใครคิดว่าไปในพื้นที่เสี่ยงขอให้กักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน หากมีอาการที่สงสัยว่าจะติดเชื้อขอให้ไปพบแพทย์ อย่าปล่อยให้อาการรุนแรง
นายกรัฐมนตรี ย้ำให้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาโควิด โดยทุกคนต้องมีความรับผิดชอบต่อกันและกัน เพื่อให้ครอบครัวและชุมชนปลอดภัย ซึ่งการร่วมมือกันของทุกฝ่ายเพื่อสู้โควิดคือ “รวมใจ ไทยสร้างชาติ” ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ทั้งตำรวจ ทหาร พลเรือน ภาคประชาสังคม เพราะทุกคนเป็นคนไทย และหากมีสิ่งใดที่หน่วยทหารสามารถสนับสนุนช่วยเหลือได้ ก็ขอให้ช่วยอย่างเต็มที่ และขอเป็นกำลังใจให้กับชาวพัทยา บุคลากรสาธารณสุข รวมทั้งภาคเอกชนที่ได้รับความเดือดร้อนในช่วงนี้ โดยทุกฝ่ายต้องรวมพลังช่วยกันแก้ปัญหาไปด้วยกัน สร้างความเชื่อมั่นให้คนมาเที่ยวประเทศไทย แล้วทุกอย่างจะเดินหน้าไปได้ พร้อมย้ำว่า “ต้องชนะโควิดให้ได้”
ทั้งนี้ นายแพทย์อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ได้รายงานสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ของ จ.ชลบุรี ว่า ผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ของ จ.ชลบุรี ช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมามี 107 ราย รวมกับผลที่ออกมาช่วงบ่ายวันนี้อีก 36 ราย เป็น 143 ราย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นเพศชาย โดยในส่วนของการเตรียมสถานที่สำหรับ State Quarantine , Alternative Local Quarantine และ Local Quarantine ซึ่งได้มีการบูรณาการร่วมของหน่วยงานทุกภาคส่วนใน จ.ชลบุรี กองทัพเรือ และส่วนกลางเป็นอย่างดี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 63)
Tags: COVID-19, ชลบุรี, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, อนุชา บูรพชัยศรี, โควิด-19