นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบจำกัด คล้ายตลาดภูมิภาคที่แกว่งบวก-ลบเล็กน้อยราว 0.1-0.2% ท่ามกลางแรงกดดันจากมาตรการเยียวยาโควิดของสหรัฐฯถูกขวางในวุฒิสภา และบ้านเราก็ยังต้องเกาะติดการแพร่ระบาดโควิดในประเทศ ที่จำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น แต่เชื่อเม็ดเงิน RMF, SSF จะช่วยประคองตลาดให้ทรงตัวได้ พร้อมให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ที่แบงก์ชาติแถลงวันนี้ และติดตามการ Re-balance ของ SET50 ด้วย อาจทำให้ตลาดผันผวนบ้าง โดยให้แนวรับ 1,450-1,440 แนวต้าน 1,470-1,480 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบจำกัด คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยราว 0.1-0.2% โดยมีแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของสหรัฐ หลังจากนายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐได้ขัดขวางการพิจารณาเพิ่มวงเงินในเช็คเงินสดเพื่อช่วยเหลือประชาชน
ส่วนบ้านเรายังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ จากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เร่งตัวขึ้น แต่เชื่อว่าตลาดฯยังได้แรงประคองจากเม็ดเงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) มาช่วยหนุนตลาดให้ทรงตัว
อย่างไรก็ดีให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ย.ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงในวันนี้ และติดตามการ Re-balance ของ SET50 ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดผันผวนได้บ้าง
พร้อมให้แนวรับ 1,450-1,440 จุด ส่วนแนวต้าน 1,470-1,480 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,335.67 จุด ลดลง 68.30 จุด (-0.22%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,727.04 จุด ลดลง 8.32 จุด (-0.22%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,850.22 จุด ลดลง 49.20 จุด (-0.38%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 9.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.15 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6.92 จุด,ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 13.92 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ธ.ค.63) 1,461.95 จุด เพิ่มขึ้น 9.28 จุด (+0.64%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,901.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.63
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.64 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ธ.ค.63) ปิดที่ 48.00 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ หรือ 0.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ธ.ค.63) อยู่ที่ 1.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 30.02/03 แนวโน้มยังแข็งค่า มองกรอบ 29.95-30.10
- กกพ.เด้งรับมติ กพช. เตรียมเดินหน้าประกาศรับซื้อไฟฟ้าจาก โรงไฟฟ้าชุมชนโดยกำลังรอหนังสือตอบกลับจากกระทรวงเกษตรฯกรณีเข้าข่ายจัดทำ ระบบเกษตรพันธสัญญาหรือไม่ คาดออกระเบียบและประกาศรับซื้อได้ ประมาณ ก.พ. 2564
- กทพ.ประกาศยกเลิกประมูลทางด่วน “พระราม 3-ดาวคะนอง” สัญญา 1 และ 3 แล้ว เตรียมปรับ TOR แก้เงื่อนไขปัญหาร้องเรียน คาดเปิดประมูลใหม่ ในไตรมาส 1 ปี 64 พร้อมลดเวลาก่อสร้าง เพื่อสปีดงานให้ทันสัญญา 2 และ 4 ที่ก่อสร้างไปก่อนแล้ว
- ตลท. เตรียมออกมาตรการคุมหุ้นฟรีโฟลตต่ำ ราคาผันผวนแรง ป้องกันไม่ให้ซ้ำรอย “เดลต้า” ที่เหวี่ยงแรง เตรียมเปิดเฮียริ่ง บล.โนมูระพัฒนสิน คาดระยะสั้นราคาพักฐาน เหตุขาดแรงซื้อจากกองทุน กดดันตลาดหุ้นไทยผันผวน บล.หยวนต้าชี้ราคาวานนี้ดิ่งเป็นเรื่องปกติหลังปรับตัวขึ้นแรง
- น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า การส่งออกในปี 2564 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนคือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกที่มีแนวโน้มดีขึ้นนโยบายของ นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ มีแนวโน้มจะผ่อนคลายความตึงเครียดของสงครามการค้าและฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีน และสหรัฐ-ยุโรป ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบและการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงจากการแพร่ระบาดระลอกสองของโควิด-19 นโยบายของนาย โจ ไบเดน อาจกระทบการส่งออกสินค้าไทยบางรายการ เช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิแรงงาน สิ่งแวดล้อม และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จัดทำบทวิเคราะห์ “ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปี 2564…ยังต้องจับตาผลกระทบจากโควิด-19 รอบใหม่” โดยระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาของปี 2563 ความเสี่ยงจากวิกฤติโควิด-19 ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่ยังเพิ่มแรงกดดันต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในหลายด้าน
หุ้นเด่นวันนี้
- ZIGA (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 4.30 บาท ราคาสินแร่เหล็กในตลาดล่วงหน้าของจีน (Dalian Exchange) แม้จะพักฐานหลังจากที่ปรับขึ้นไปแรงมาก แต่ยังอยู่ในระดับสูงและ +19% MTD เป็นบวกต่อมาร์จิ้นของ ZIGA อีกทั้งแม้จำนวนวันทำงานใน Q4/63 จะน้อยแต่คาดกำไรจะยังน่าประทับใจ 38 ล้านบาท -8% Q-Q, +1,178% Y-Y ทำให้กำไรทั้งปี 2563 +232% Y-Y และโตต่อ +26% Y-Y ในปี 2564 จากการขยายช่องทางขายปลีกและ online รวมถึงเร่งขายสาขา
- SAWAD (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้าสูงสุด IAA Consensus 73.5 บาท ฐานสินเชื่อโตจาก กลุ่มลูกค้าใหม่ของ ธ.ออมสิน, ต้นทุนเงินทุนลดลงจากเงินทุนต้นทุนต่ำของ ธ.ออมสิน ช่วยหนุนส่วนต่างดอกเบี้ยและกำไรเพิ่มขึ้น
- CPF (เอเชีย เวลท์) “ซื้อ”เป้า 43.00 บาท มีความน่าสนใจจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาแพร่ระบาดในไทย (สมุทรสาคร) ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความกังวลในการบริโภคอาหารทะเล และคาดว่าจะหันมาบริโภคเนื้อหมูและไก่แทน เป็นปัจจัยหนุน CPF และดีลเทสโก้ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 63 จะช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับผลิตภัณฑ์ของ CPF รวมถึงราคาต้นทุนอาหารสัตว์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นในปี 2564 ไม่ได้กระทบต่อบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ ปี 2564 แนวโน้มธุรกิจหมูในเวียดนามและจีนคาดว่าจะทรงตัว YoYจากราคาหมูที่เริ่มอ่อนตัว แต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าก่อนเกิดโรค ASF นอกจากนี้มองว่าราคาที่ปรับตัวลงมา สะท้อนความกังวลมากเกินไป
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 63)
Tags: CPF, SAWAD, ZIGA, ตลาดหุ้นไทย, บล.ทิสโก้, หุ้นไทย, อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล