“Weekly Highlight” สัปดาห์นี้ (28-30 ธ.ค.) มาเจาะลึกกับข่าวสารสำคัญ ในรอบสัปดาห์ประจำวันที่ 28 ธันวาคม 2563
เริ่มต้นกับการสรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่แล้ว (21-25 ธ.ค.) SET INDEX ปิดที่ระดับ 1,486.31 จุด เพิ่มขึ้น 0.27% จากสัปดาห์ก่อน ขานรับกับแรงซื้อหุ้นไซส์บิ๊กแคป ที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ,กลุ่มการเงิน ,และกลุ่มการแพทย์ เป็นต้น
เข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของปี 2563 ที่แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะเปิดซื้อขายเพียง 3 ทำการเท่านั้น แต่ด้วยบรรยากาศการลงทุนที่ยังคงถูกปกคลุมจากปัจจัยเชิงลบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศ หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงเป็นลำดับ และแพร่กระจายเข้าสู่ในหลายจังหวัด ทำให้เป็นที่น่าจับตาว่าความกังวลที่ยกระดับเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดสัปดาห์นี้ จะเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนให้ตัดสินใจขายหุ้นในพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวต้อนรับเทศกาลปีใหม่มากน้อยแค่ไหน
อ้างอิงข้อมูลจากการรายงานศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 121 ราย ประกอบด้วย ผู้ติดเชื้อในประเทศ 94 ราย แรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 18 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศไม่เข้าสถานที่กักกัน 1 ราย และสถานกักกันที่รัฐจัดให้อีก 8 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมในประเทศอยู่ที่ 6,141 ราย ประกอบด้วยผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 4,173 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าว 1,356 ราย ส่วนผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 1,968 ราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมรวม 80,715,840 ราย เสียชีวิตแล้ว 1,764,563 ราย โดยสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อสูงสุด 19,433,847 ราย ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 142
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินภาพรวม SET INDEX ในสัปดาห์สุดท้ายของปีคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่ 1,450-1,520 จุด แม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ลงทุนส่วนใหญ่จะคลายความกังวลภายหลังจากที่รัฐบาลส่งสัญญาณว่าจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเหมือนกับช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดครั้งแรก แต่หากผลกระทบของจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศยังคงเร่งตัวสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบเชิงลบกับผู้ลงทุนในระยะสั้นๆได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันยังคงสามารถคาดหวังต่อปัจจัยบวกจากการหวนกลับมาซื้อสุทธิของผู้ลงทุนต่างชาติอีกครั้งหลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงมองเป็นโอกาสสะสมหุ้นไซส์บิ๊กแคปที่มีผลประกอบการเติบโต รองรับกับการฟื้นตัวของราคาหุ้นในระยะถัดไปได้
ด้าน บล.กสิกรไทย ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีแนวรับที่ 1,475 และ 1,460 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,500 และ 1,510 จุดตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทำ Window Dressing และแรงซื้อจากกลุ่มกองทุนในช่วงปลายปี สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนความชัดเจนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขายเดือน พ.ย. ของสหรัฐฯ และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย.ของญี่ปุ่น
ส่วนธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 29.80-30.30 บาทต่อดอลลาร์ฯขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนพ.ย. โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย รวมไปถึงบทสรุปของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เดือนธ.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. 63)
Tags: SET, SET Index, กรภัทร วรเชษฐ์, กสิกรไทย, ศบค., ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, โควิด-19, โนมูระ พัฒนสิน