นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน แถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า ที่ประชุม กพช.วันนี้มีมติปรับเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากกลุ่มบ้านผู้อยู่อาศัยในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ภาคประชาชนที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเป็น 2.20 บาท/หน่วย จากเดิมรับซื้อในราคาไม่เกิน 1.68 บาท/หน่วย เป้าหมายการรับซื้อ 50 เมกะวัตต์ (MW) ระยะเวลารับซื้อ 10 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64
ทั้งนี้ ให้ครอบคลุมทั้งประชาชนที่เข้าร่วมโครงการใหม่และที่ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าหรือได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว ซึ่งการปรับเพิ่มอัตรารับซื้อไฟฟ้าให้ผลตอบแทนดีขึ้น สามารถคืนทุนภายใน 8-9 ปี เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุนและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนประเภทบ้านอยู่อาศัย
พร้อมทั้งให้ขยายผลการดำเนินโครงการไปยังกลุ่มโรงเรียนสถานศึกษา โรงพยาบาล และสูบน้ำเพื่อการเกษตร (โครงการนำร่อง) โดยกำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบในอัตรา 1.00 บาท/หน่วย แบ่งเป็นกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา 20 MW กลุ่มโรงพยาบาล 20 MW และแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร 10 MW
หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้จะต้องมีกำลังผลิตติดตั้งมากกว่า 10 kW แต่น้อยกว่า 200 kW ระยะเวลารับซื้อ 10 ปี เพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าและศักยภาพพื้นที่ สำหรับติดตั้งระบบโดยเฉลี่ย และส่งเสริมระบบผลิตไฟฟ้าแบบกระจาย
นายกุลิศ กล่าวว่า โครงการนำร่องทั้ง 100 MW หากมีผู้เข้าร่วมครบทั้งจำนวน ก็คาดว่าจะทำให้มีการลงทุนราว 3,000 ล้านบาท ส่วนความคืบหน้าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าชุมชนนำร่อง 150 MW นั้น คาดว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะออกประกาศรับซื้อได้ในราวเดือนม.ค.-ก.พ.64
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 ธ.ค. 63)
Tags: กพช., กระทรวงพลังงาน, กุลิศ สมบัติศิริ, คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ, ซื้อขายไฟฟ้า, พลังงานแสงอาทิตย์, โซลาร์ภาคประชาชน, ไฟฟ้า