ธนาคารโลกเปิดเผยรายงานฉบับล่าสุดระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนกลับคืนสู่ภาวะปกติเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
รายงานเปิดเผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นผลมาจากยุทธศาสตร์ในการควบคุมโรคระบาด การให้ความช่วยเหลือด้วยการออกนโยบายที่ชัดเจน และการส่งออกที่กลับมาฟื้นตัว
ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัวขึ้น 2% ในปีนี้ และจะขยายตัว 7.9% ในปี 2564
รายงานของธนาคารโลกระบุว่า “ปัจจัยภัยนอกยังคงสร้างความท้าทายและสความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจจีน” โดยรายงานดังกล่าวสอดคล้องกับที่จีนเปิดเผยในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงเมื่อวันศุกร์ว่า จีนยังคงเผชิญกับความผันผวนจากปัจจัยภายนอกท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศจะยังไม่เข้าสู่ในระดับที่แข็งแกร่ง
รายงานบ่งชี้ว่า การที่จีนมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับความไม่แน่นอนในระยะใกล้นี้ เป็นผลมาจากการใช้กรอบนโยบายที่ปรับเปลี่ยนไปตามจังหวะการฟื้นตัวทั้งในภายในประเทศและต่างประเทศ
“การถอนนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควร และการใช้มาตรการที่เข้มงวดมากเกินไปอาจชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ จีนอาจใช้การคลังเพื่อป้องกันปัจจัยเสี่ยงที่กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจ และช่วยสร้างความมั่นใจว่าจะเกิดการหมุนเวียนของอุปสงค์จากภาครัฐไปสู่ภาคเอกชนได้อย่างราบรื่น ควบคู่ไปกับการดำเนินนโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นและช่วยพยุงเศรษฐกิจ”
รายงานของธนาคารโลกระบุ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารโลกยังได้แนะนำให้จีนปรับเปลี่ยนเป้าหมายด้านการคลัง จากที่เคยมุ่งลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบเดิม ไปสู่การลงทุนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 63)
Tags: COVID-19, GDP, ธนาคารโลก, เวิลด์แบงก์, เศรษฐกิจจีน, โควิด-19