บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ภายใต้กลุ่ม บมจ.เจมาร์ท (JMART) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเจ มันนี่ (J Money) เปิดบริการสมัครสินเชื่อ ตรวจสอบข้อมูลเครดิต และ เครดิตสกอริ่ง
โดยร่วมกับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร), บริษัท เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี จำกัด (NDID) และ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสมัครและตรวจสอบข้อมูลเครดิตในเบื้องต้นของตนเองผ่านทางแอปพลิเคชัน J Money รวมทั้งสามารถยืนยันตัวตนการสมัครและยินยอมให้เปิดข้อมูลตนเอง แบบดิจิทัลได้ทันทีจากแพลตฟอร์ม JID ตามมาตรฐานของ NDID ซึ่งจะช่วยให้การทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เป็นไปด้วยความปลอดภัย มั่นใจได้ด้วยการจัดเก็บบนเทคโนโลยีบล็อกเชน และ ถูกต้องตามกฎหมาย
นายกิติพัฒน์ ชลวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด กล่าวว่า เบื้องต้นเมื่อลูกค้าต้องการขอสินเชื่อ จะต้องใช้ระยะเวลาจากที่ใช้เวลา 3-5 วัน ในกระบวนการทางเอกสารแบบอนาล็อกและการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลเครดิต แต่ด้วยความร่วมมือดังกล่าวทำให้มีการพัฒนาฟีเจอร์ e-NCB สำหรับให้ข้อมูลเครดิต ในกระบวนการ เครดิตสกอริ่งแบบดิจิทัล (e-Scoring) ทำให้ลดเวลาในการตรวจสอบผลอนุมัติเบื้องต้น (Pre-Approval) เหลือเพียง 3 นาที
ทั้งนี้ ด้วยการเชื่อมต่อเข้าสู่ฐานข้อมูลเครดิตทำให้ระบบสามารถวิเคราะห์ขั้นต้นว่าผู้ขอสินเชื่อไม่มีความเสียหายในประวัติทางการเงินใดๆ จากระบบฐานข้อมูลเครดิตบูโร โดยทำงานร่วมกับ แพลตฟอร์ม JID ของ เจ เวนเจอร์ ที่เป็นระบบ e-KYC สำหรับการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมการเงินแบบดิจิทัล ที่เชื่อมต่อบนโครงข่าย NDID ทำให้ลูกค้าเห็นโอกาสที่จะได้ได้รับอนุมัติวงเงินอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอลุ้นนาน
หลังจากนี้เจ ฟินเทคก็ได้เร่งพัฒนาระบบการให้สินเชื่อดิจิทัลเต็มรูปแบบตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ด้วยการทำงานแบบ paperless ด้วยกระบวนการตอบรับวงเงินสินเชื่อและสัญญา ผ่านระบบ e-Contract ผ่านกระบวนการ e-Signature ทั้งนี้ ระบบงานและเทคโนโลยีทั้งหมด ของ เจ มันนี่ แอปพลิเคชัน พัฒนาและดูแลโดย เจ เวนเจอร์ส ซึ่งถือเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารรายแรก (Non-Bank) ที่เปิดให้บริการสินเชื่อดิจิทัลได้แบบเรียลไทม์
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร กล่าวว่า ความร่วมมือกับบริษัท เจ ฟินเทค นับว่าเป็นอีกก้าวของการขยายบริการด้านข้อมูลเครดิตให้สอดคล้องในรูปแบบการใช้ชีวิตทางการเงินในยุคนี้ เนื่องจากปัจจุบันกำลังเข้าสู่สังคมดิจิทัล มีการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งเครดิตบูโรเองก็ได้พัฒนาทั้งระบบประมวลผล การรายงานผลข้อมูล และการให้บริการให้มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และหลากหลายช่องทาง
โดยการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้จะช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของบุคคล ป้องกันความเสี่ยง รวมทั้งการฉ้อฉลในการกู้ยืมอีกด้วย และมั่นใจได้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครองดูแลและรักษาความลับด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล
นายบุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ NDID กล่าวว่า เพื่อรองรับการเติบโตของการทำธุรกรรมดิจิทัลในประเทศไทย สิ่งสำคัญที่ทั้งฝั่งของผู้ทำธุรกรรม และผู้ให้บริการ ต้องการคือ ความมั่นใจว่าบุคคลที่ทำธุรกรรมนั้นคือบุคคลนั้นอย่างแท้จริง อันเป็นก้าวแรกของความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมดิจิทัล
NDID เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล บริการ NDID มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับมาตรฐาน และความน่าเชื่อถือของการทำธุรกรรมดิจิทัล และสามารถนำไปต่อยอดไปสู่ขั้นตอนอื่นๆ ได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย NDID Platform มีความปลอดภัยของข้อมูล ความโปร่งใสตรวจสอบได้ เนื่องจากดำเนินงานอยู่บนเทคโนโลยีบล็อกเชนอีกทั้งเรายังได้รับความร่วมมือจากสมาชิกในหลายภาคส่วนในการให้บริการ ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ทั้งหมดนี้จะส่งเสริมและรองรับการเติบโตของการทำธุรกรรมดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือ JMART ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม JID เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล กล่าวว่า JID เป็น บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลที่มีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากล และเป็นไปตามมาตรฐานของ NDID โดยการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลนั้น เป็นการพิสูจน์ตัวตนเพื่อประโยชน์ในการทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีธนาคาร การทำธุรกรรมเกี่ยวกับการเงิน การเปิดบัญชีหลักทรัพย์ออนไลน์ กองทุนออนไลน์ และประกันภัย เป็นต้น
การยืนยันตัวตนด้วยแอปพลิเคชัน JID นั้น ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ ช่วยให้ผู้ใช้งานมีความสะดวก ลดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง มั่นใจในความปลอดภัยอีกขั้นตอน ด้วยระบบเปรียบเทียบใบหน้าเทคโนโลยีชีวมิติ (Biometric) จากข้อมูลทางกายภาพเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตน และมั่นใจในความโปร่งใสด้วยเทคโนโลยีบล็อคเชน
สำหรับบริการ สมัครสินเชื่อ ตรวจสอบข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง โดย J Money มีขั้นตอนการทำงานง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน J Money โดยลูกค้าลงทะเบียนและเลือกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ จากนั้นกรอกข้อมูลพื้นฐานบุคคลในการสมัครสินเชื่อ และให้ความยินยอมในเปิดข้อมูลเครดิตของตนกับเครดิตบูโรแบบ e-NCB และเลือกว่าจะยืนยันตัวตนดิจิทัล ด้วยแอปพลิเคชัน JID (e-KYC) จากนั้นระบบจะส่งข้อความแจ้งให้ทราบถึงผลลัพธ์ และโอกาสอนุมัติวงเงินต่อไป ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน J Money ได้ทั้งทางระบบ Android และ iOS
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 63)
Tags: J Money, JMART, NDID, กิติพัฒน์ ชลวุฒิ, ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ, ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์, บุญสันต์ ประสิทธิ์สัมฤทธิ์, สินเชื่อ, สุรพล โอภาสเสถียร, เครดิตบูโร, เจ ฟินเทค, เจ มันนี่, เจ เวนเจอร์ส, เจมาร์ท, เนชั่นแนลดิจิทัลไอดี, แอปพลิเคชัน