นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอสไอเอส ดิสทูบิวชั่น (SIS) เปิดเผยว่า ทิศทางผลประกอบการในปี 64 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปี 63 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการสินค้าไอทีปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวเนื่องกับการประชุม (E-meeting) เช่น ลำโพง, กล้อง, ไมโครโฟน ขยับสูงขึ้นอย่างชัดเจน สอดคล้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ จากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบันยังเป็นปัจจัยผลักดันเร่งให้ปรับการทำงานมาใช้เทคโนโลยีมากขึ้น เช่น การประชุม ซึ่งบริษัทได้รับงานในการเข้าไปติดตั้งระบบการประชุมออนไลน์ให้มีความเสถียรและใช้งานได้สะดวกมากขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มเทคโนโลยีที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะส่วนสำคัญการเชื่อมต่อ 5G ในการให้บริการ Internet of Things (IoT) ภายใน smart environment ที่ยังช่วยสนับสนุนให้ต้นทุนการใช้บริการระบบ 5G ลดลงอย่างมาก
ประกอบกับ จากความไม่แน่นอนของการระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้คาดว่าในปี 64 บริษัทจะสามารถจำหน่ายเครื่องสแกนอุณภูมิได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวหลากหลายระดับราคาสามารถรองรับทั้งในองค์ขนาดใหญ่ เช่น โรงพยาบาล และโรงเรียน และองค์กรขนาดเล็กได้ อีกทั้งการเปิดแผนกใหม่ ในการเข้ามาดูแลในเรื่องของออนไลน์ คือการเข้ามาทำระบบการซื้อขายออนไลน์ให้แก่ลูกค้าทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็ก ทางบริษัทจะจัดการให้ครบวงจรรวมไปถึงการสต็อคสินค้าและการจัดส่งสินค้าด้วย ซึ่งปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้นนี้ ล้วนเป็นปัจจัยที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องได้ในระยะยาว
พร้อมกันนี้ จากการการเพิ่มบริการใหม่ เช่น โครงการเช่าซื้อ และเช่าใช้ Data Center and Cloud Service ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ในปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าที่ใช้บริการแล้วกว่า 297 ราย จากจำนวนลูค้าบริษัทที่มีทั้งสิ้นมากกว่า 7,000 ราย โดยมองว่าในส่วนของธุรกิจนี้ยังมีโอกาสในการขยายการให้บริการได้อีกมาก ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าในปี 64 จะเห็นยอดขายสินค้าและให้บริการเกี่ยวกับ Cybersecurity เพิ่มมากขึ้นภายหลังที่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 63)
Tags: SIS, สมชัย สิทธิชัยศรีชาติ, สินค้าไอที, หุ้นไทย, เอสไอเอส ดิสทูบิวชั่น