กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศเพิ่มบริษัทจีนและรัสเซียอีกกว่า 100 แห่งเข้ารวมในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ โดยระบุว่าบริษัทเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน
แถลงการณ์ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า การขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนอีก 58 แห่งและบริษัทรัสเซียจำนวน 45 แห่งนั้น หมายความว่า บริษัทสหรัฐที่ต้องการจะขายสินค้าที่จะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารให้กับบริษัทเหล่านี้ จำเป็นต้องขอใบอนุญาตก่อน
สำหรับรายชื่อของบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำครั้งใหม่นี้ รวมถึงบริษัทลูก 7 แห่งของบริษัทเอวิเอชัน อินดัสทรี คอร์ป ออฟ ไชน่า และบริษัทฟอเรนจ์ อินเทลลิเจนซ์ เซอร์วิส (SVR) ของรัสเซียซึ่งถูกระบุว่าอาจเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีทางไซเบอร์หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐและบริษัทสหรัฐอีกหลายแห่งเมื่อไม่นานมานี้
นายวิลเบอร์ รอส รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐ กล่าวว่า “กระทรวงพาณิชย์ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการยกระดับการเป็นพันธมิตรกับบริษัทสหรัฐและบริษัททั่วโลก ในการต่อสู้กับความพยายามของจีนและรัสเซียที่ต้องการจะผ่องถ่ายเทคโนโลยีของสหรัฐไปยังโครงการด้านการทหารของพวกเขา”
การออกมาตรการล่าสุดของสหรัฐเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีนย่ำแย่ลงอย่างมากในช่วงการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และยังเป็นการเปิดทางให้สหรัฐสามารถตรวจสอบบริษัทต่างๆ ที่ถูกระบุว่าเป็นเจ้าของหรือครอบครองโดยกองทัพจีน หลังจากในช่วงต้นปีนี้ คณะบริหารของปธน.ทรัมป์ได้ขึ้นบัญชีดำบริษัทจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยบริษัทเหล่านี้รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยี่ส์ และหางโจว ฮิควิชัน ดิจิทัล เทคโนโลยี รวมทั้งบริษัทของรัฐบาลจีนอีกหลายแห่ง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 63)
Tags: กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ, จีน, จีนสหรัฐ, บัญชีดำ, รัสเซีย, วิลเบอร์ รอสส์, สหรัฐ