สหภาพยุโรป (EU) และอังกฤษยังไม่สามารถทำข้อตกลงการค้าสำหรับการบังคับใช้หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU (Brexit) เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นต่างกันในด้านการประมง แม้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านกำลังจะสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้
นายมิเชล บาร์นิเยร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้แทนการเจรจาฝ่าย EU เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ทางฝั่งยุโรปยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อบรรลุข้อตกลงให้ได้ ขณะที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีอังกฤษเปิดเผยว่า ข้อเรียกร้องของยุโรปนั้นขัดต่อเอกราชของอังกฤษ โดยอังกฤษไม่สามารถยอมรับข้อตกลงที่ไม่เปิดโอกาสให้อังกฤษมีอำนาจเหนือน่านน้ำตัวเอง
ทั้งนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติที่ดูแลเรื่อง Brexit ของรัฐสภายุโรปเตรียมประชุมกันอีกครั้งวันนี้ เพื่อประเมินทางเลือกต่างๆ อีกครั้ง แต่คาดว่ารัฐสภายุโรปอาจจะไม่สามารถอนุมัติข้อตกลงใดๆ ได้ทันวันสิ้นปีนี้แล้ว
รายงานระบุว่า อังกฤษและ EU ยังคงมีความขัดแย้งกันในประเด็นการประมง และการที่ EU กำหนดข้อบังคับให้มีการลงโทษอังกฤษ หากมีการละเมิดข้อตกลง
หากอังกฤษและ EU ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนวันที่ 1 ม.ค.2564 ก็จะทำให้อังกฤษแยกตัวออกจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง ส่งผลให้อังกฤษสูญเสียสิทธิพิเศษทางการค้ากับ EU และทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการค้าภายใต้กฎเกณฑ์ขององค์การการค้าโลก (WTO)
นอกจากนี้ ภาวะ no-deal Brexit จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอังกฤษและยุโรป และสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาดการเงิน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ธ.ค. 63)
Tags: Brexit, EU, ข้อตกลงการค้า, มิเชล บาร์นิเยร์, สหภาพยุโรป, อังกฤษ, อียู