IPVM บริษัทวิจัยในอุตสาหกรรมระบบตรวจสอบและเฝ้าระวังซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ของจีนมีเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ซึ่งสามารถจำแนกบุคคลที่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ได้อย่างเฉพาะเจาะจง
IPVM เปิดเผยรายงานดังกล่าวหลังจากที่กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนกล่าวหาว่า จีนได้บังคับให้ชาวมุสลิมอุยกูร์จำนวนกว่า 1 ล้านคนเข้าสู่ค่ายกักกันแรงงาน และระบุรายชื่อของบรรดาบริษัทที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว
อย่างไรก็ดี จีนได้ปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่มีการบังคับให้ผู้ใดต้องเข้าสู่ศูนย์ฝึกอาชีพตามที่มีการเรียกกัน และยังระบุด้วยว่า เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ตกอยู่ภายใต้การคุกคามของกลุ่มก่อการร้ายชาวมุสลิม
รายงานของ IPVM ระบุว่า ซอฟต์แวร์ของอาลีบาบาสามารถระบุอัตลักษณ์หรือตัวตนของชาวมุสลิมอุยกูร์ที่ปรากฏในบริการ Cloud Shield ของอาลีบาบา ซึ่งจะทำการกลั่นกรองและปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสมสำหรับเผยแพร่บนเว็บไซต์ต่างๆ
ด้านอาลีบาบาอธิบายว่า Cloud Shield เป็นระบบที่สามารถตรวจจับและจำแนกข้อความ ภาพ วิดีโอ และเสียงที่มีเนื้อหาลามกอนาจาร การเมือง การก่อการร้าย โฆษณา และสแปม โดยมีความสามารถในการตรวจสอบยืนยัน ระบุตัวตน รวมคุณสมบัติอื่นๆ
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวได้กระตุ้นเตือนบรรดาบริษัทอินเทอร์เน็ตของจีนซึ่งตามปกตินั้นบริษัทเหล่านี้มักจะคอยเซ็นเซอร์คอนเทนต์อยู่แล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับรัฐบาลจีนที่คอยควบคุมการแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์อย่างเข้มงวด และเมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทเหล่านี้ยังได้เผยแพร่ร่างกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมการไลฟ์สดด้วย
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 63)
Tags: IPVM, ชาวมุสลิมอุยกูร์, ซอฟต์แวร์, สหรัฐ, อาลีบาบา