พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมจะมีการหารือมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่
โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จะทำให้เกิดการรวมตัวของประชาชนจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้าง รวมถึงการกำชับให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดเข้มงวดกับการปฏิบัติตามขั้นตอน ข้อกำหนด และกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมโรค ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีการเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมาดูแลสถานการณ์ในช่วงส่งท้ายปีใหม่หรือไม่
สำหรับวาระการประชุม ศบค.วันนี้ กระทรวงสาธารณสุข จะรายงานเรื่องการปรับวันตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้เข้ารับการกักกันตัวในสถานกักกันตัวตามที่รัฐกำหนด และการอนุญาตให้บริษัทเอกชนนำนายช่างชาวเยอรมันเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยเข้ากักตัวในสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine) หรือ OQ และสามารถเข้าปฏิบัติงานได้ทันที
กระทรวงคมนาคม จะรายงานความคืบหน้าการอนุญาตให้เรือยอร์ชสามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
กระทรวงการต่างประเทศ จะแจ้งผลการดำเนินงานตามมาตรการเพื่อผ่อนคลายให้ชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเสนอร่างเอกสารข้อเสนอการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือช่องทางพิเศษของฝ่ายไทย หรือ Special Arrangement
กระทรวงมหาดไทย จะรายงานการเพิ่มระยะเวลาพำนักให้แก่คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร และต้องเข้ารับการกักตัวตามข้อกำหนด
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอมาตรการรองรับการจัดการแข่งขันกอล์ฟ รายการ Honda LPGA Thailand 2021
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะรายงานความคืบหน้าแอปพลิเคชั่น Thailand Plus
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวก่อนการประชุม ศบค. ถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า มาตราการมีอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมามีคนไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ซึ่งการจัดกิจกรรมต้องมีการขออนุญาตก่อน โดยเฉพาะงานที่มีคนมาร่วมจำนวนมาก ซึ่งผู้จัดงานต้องเสนอขั้นตอนเข้ามา เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปดูข้อเสนอและไปเทียบกับระเบียบที่กำหนดไว้
“หากอยู่ในระเบียบ ก็อนุญาตอยู่แล้ว แต่ที่เป็นปัญหา คือการทำนอกกรอบ ไม่เป็นไปตามที่อนุญาตไว้ ดังนั้น ถ้าทุกคนทำตามที่ขอไว้ ก็จะไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งนั้น”
รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขกล่าว
ส่วนที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ จำเป็นต้องมีมาตรการคุมเข้มมากกว่าเดิมหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ และเว้นระยะห่างพอสมควร ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้ว และเชื่อว่าทุกคนมีสัญชาตญาณที่จะป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้ เพราะเข้าใจมาตรการป้องกันอยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่า ทุกกิจกรรมในช่วงปีใหม่สามารถดำเนินไปได้ตามปกติ โดยผู้จัดต้องขออนุญาต และส่วนใหญ่ก็จะอนุญาตอยู่แล้ว
ส่วนจะมีการถอดบทเรียนกรณีคอนเสิร์ตบิ๊กเม้าท์เทน ที่ จ.นครราชสีมา หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่เป็นบทเรียน แต่บทเรียนคือการไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ทำผิดขั้นตอน อย่าทำนอกเหนือที่ขออนุญาตไว้ ซึ่งเราก็ทำตามหน้าที่ ยกตัวอย่าง เมื่อมีการประกาศให้งดจัดกิจกรรม แล้วยังจัดอยู่ หากเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการ อยากถามว่าใครผิด เจ้าหน้าที่ก็มีความผิดอีก เหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีทางเลือกและทำงานลำบาก ดังนั้นทุกคนต้องทำตามกฎหมาย
ส่วนสถานการณ์ตามแนวชายแดนขณะนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องห่วง เพราะไม่มีการลักลอบเข้ามาแล้ว หากลักลอบเข้ามาเจ้าหน้าที่ก็จับกุมได้หมด และเชื่อว่ามาตรการกักตัว 14 วันจะทำให้ทุกคนปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ได้รายชื่อผู้ที่ลักลอบเข้ามา และทำความเข้าใจหมดแล้ว ในส่วนของท่าขี้เหล็กก็ไม่มีอะไรน่ากังวลอีกต่อไป ซึ่งฝ่ายความมั่นคงก็สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าประเทศได้ตลอดเวลา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 63)
Tags: COVID-19, กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงคมนาคม, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงสาธารณสุข, ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ศบค., อนุทิน ชาญวีรกูล, เทศกาลปีใหม่, โควิด-19