หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานว่า สหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนมากขึ้นในปี 2563 แม้สถานการณ์การค้าต่างประเทศได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
รายงานของนิวยอร์ก ไทม์สระบุว่า “การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินที่เก็บไว้สำหรับท่องเที่ยวพักร้อนไปกับการซื้อสินค้า และการรับประทานอาหาร รวมถึงการซื้อเครื่องใช้ในบ้าน เช่น ไฟดวงใหม่สำหรับการทำงานที่บ้าน อุปกรณ์ออกกำลังกาย และของเล่นเพื่อให้เด็กๆ ได้รับความบันเทิง
ข้อมูลการค้าในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งรวบรวมโดยสำนักงานศุลกากรของสหรัฐระบุว่า สหรัฐนำเข้าสินค้าประเภทต่างๆจากจีนเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า หน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ยอดส่งออกสินค้าจากจีนไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 46.1% แตะที่ 5.198 หมื่นดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
การที่สหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์นั้น ถือเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของนักการเมืองสหรัฐทั้งสองพรรค โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้สหรัฐลดการนำเข้าสินค้าจากจีน และจะย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐในที่สุด
รายงานดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าต่างประเทศของจีนในเดือนพ.ย. ปรับตัวขึ้น 7.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดส่งออกเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 14.9% เทียบรายปี
ข้อมูลของ GAC ยังระบุด้วยว่า ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ประเทศในกลุ่มอาเซียนยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน รองลงมาคือสหภาพยุโรป และสหรัฐ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ธ.ค. 63)
Tags: จีน, จีนสหรัฐ, นำเข้า, ภาษีนำเข้าสินค้า, สหรัฐ, สินค้าจีน, เศรษฐกิจสหรัฐ