กรมป้องกันฯ เผยสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด คงเหลืออีก 4 จังหวัด

รายงานข่าว แจ้งว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัย ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.ถึงปัจจุบัน (14 ธ.ค.)

มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และวาตภัยรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราชตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 101อำเภอ 584 ตำบล 4,220 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 691,659 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 30 ราย (นครศรีธรรมราช 21 ราย พัทลุง 3 ราย สุราษฎร์ธานี 2 ราย ตรัง 2 ราย และสงขลา 2 ราย) ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย

ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมใน 4 จังหวัด 20 อำเภอ 85 ตำบล 440 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32,684 ครัวเรือน ในภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมระดับน้ำลดลงทุกจังหวัด โดย

จ.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิมอำเภอพุนพิน และอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และ รวม 30 ตำบล 203 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,556 ครัวเรือน

จ.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอปากพนัง รวม 31 ตำบล 172 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 22,089 ครัวเรือน

จ.พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนขนุน อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูนและอำเภอบางแก้ว รวม 9 ตำบล 19 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,620 ครัวเรือน

จ.สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอระโนดและอำเภอสทิงพระ รวม 15 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,419 ครัวเรือน

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต ทั้งที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย พื้นที่ใกล้เคียง พื้นที่อื่นๆ สนับสนุนการเผชิญเหตุ โดยระดมกำลังพลและทรัพยากรด้านสาธารณภัย อาทิ เรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์ เรือไฟเบอร์ รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถผลิตน้ำดื่ม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถสุขาเคลื่อนที่ รถประกอบอาหาร รถไฟฟ้าส่องสว่าง รวมถึงเดินหน้าในการช่วยเหลือดูแลด้านการดำรงชีพเบื้องต้นแก่ประชาชนที่ยังคงได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สำหรับในส่วนของผู้เสียชีวิต จังหวัดได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบแล้ว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ธ.ค. 63)

Tags: , , , ,
Back to Top